นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีปมค่าไฟแพง ภายหลังที่นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวหาว่ารัฐบาลโกงค่าไฟประชาชน และมีการทุจริตเชิงนโยบาย เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนพลังงาน
นายพีระพันธุ์ ยืนยันว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่เคยเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ไม่เช่นนั้นคงไม่ถูกสื่อมวลชนแซะอยู่ทุกวันนี้ ยืนยันได้ว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นความจริง และทุกอย่างที่ฝ่ายค้านพาดพิง ทั้งรัฐบาล และตัวนายกรัฐมนตรี รวมถึงตนเองไม่ได้เป็นไปอย่างที่ฝ่ายค้านกล่าวหา ซึ่งตอนนี้พยายามหาทางแก้ไขปัญหามากกว่าเรื่องของค่าแอดเดอร์ (Adder) และพยายามแก้ไขปัญหาในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน
"ต้องขอขอบคุณอีกครั้ง ที่ผมสามารถดำเนินการได้ทุกวันนี้ ก็เพราะได้รับการสนับสนุนจากนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งทั้งหมดที่ฝ่ายค้านพาดพิงมา ยืนยันได้ว่าไม่เป็นความจริง" รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ระบุ
นายพีระพันธุ์ ชี้แจงว่า ตนอยู่ในรัฐบาลภายใต้แกนนำของพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา จนมาถึงสมัย น.ส.แพทองธาร ที่มีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) โดยยืนยันได้ว่า ทั้ง 2 คนทำหน้าที่เป็นอย่างดี และสนับสนุนให้ตนเดินหน้าแก้ไขปัญหาเรื่องราคาไฟฟ้าตั้งแต่ต้น รวมไปถึงเรื่องราคาน้ำมัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการวางรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้น
ส่วนการรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียน ยืนยันว่า ไม่มีสัญญาใด ๆ ที่นายกรัฐมนตรีไปเซ็นไว้ เพราะสัญญาซื้อขายไฟฟ้า เป็นการเซ็นระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กับผู้ที่ประมูลได้ ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี หรือใคร และรัฐบาลชุดนี้ ยังไม่มีการประมูลได้เลย และโดยอันดับแรกต้องหาทางหยุดเซ็นสัญญาก่อน ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็เห็นด้วยในเรื่องนี้ และได้มีข้อสั่งการให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ที่ทางสมาชิกฝ่ายค้านได้สอบถาม พร้อมยืนยันว่า ปัญหาที่ฝ่ายค้านกังวล นายกรัฐมนตรีไม่ได้นิ่งใจหรือเพิกเฉยแต่อย่างใด
ขณะที่เรื่องของสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแบบชั่วนิรันดร์ (Adder) ที่ไม่สามารถยกเลิกได้ ซึ่งสัญญาดังกล่าวได้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2550 ไม่ใช่เพิ่งเกิด ซึ่งตนก็แปลกใจว่า ทำไม กกพ.ถึงเพิ่งออกมาพูด และมีการลด 17 สตางค์จริงหรือไม่ ก็ต้องมีการตรวจสอบ เพราะยังไม่เคยรู้ว่ามาได้อย่างไร แต่ตนก็เห็นด้วยกับเรื่องของค่า AP หรือ ค่าความพร้อมเดินเครื่องเพื่อจ่ายไฟฟ้า
ส่วนเรื่องของแผนพัฒนาพลังไฟฟ้า (PDP) ที่ยังไม่จบ เนื่องจากรัฐบาลยังไม่ยอม เพราะตนไม่เห็นด้วยที่จะมีการวางกรอบพลังงานในระยะยาว และไม่เห็นด้วยกับการประเมินว่าปี 2580 จะมีการใช้ไฟฟ้าถึง 1 แสนเมกะวัตต์ แต่ทุกวันนี้ไม่ได้ดำเนินการโดยรัฐบาล ซึ่งเป็นการทำงานของฝ่ายประจำ แต่ในฐานะที่ควบคุมรับผิดชอบก็ต้องดูแล จึงเป็นที่มาของการโต้แย้งกัน พร้อมย้ำว่า ที่เรื่องดังกล่าวยังไม่จบ เพราะรัฐบาลไม่เห็นด้วย ไม่ใช่เป็นการเปิดช่องให้กับนายทุนตามที่ฝ่ายค้านกล่าวหา