
น.ส.นิรมาณ ไหลสาธิต กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) กล่าวว่า ปัจจุบันประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีความสำคัญมากขึ้น การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว และกฎระเบียบใหม่ ที่จะมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่จะต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน เช่น ความไม่แน่นอนของตลาด และข้อกำหนดใหม่ ๆ ด้านสิ่งแวดล้อม ดังนั้น บทบาทของธนาคารจึงไม่ใช่แค่ผู้ให้บริการด้านสินเชื่ออีกต่อไป แต่ต้องปรับให้เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ที่จะช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าปรับตัว และวางแผนเชิงรุกเพื่อก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านในครั้งนี้
"ช่วงที่ผ่านมา เราได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ เช่น ไฟป่าในสหรัฐฯ น้ำท่วมในจาการ์ตา หิมะตกหนักในญี่ปุ่น รวมถึงภัยธรรมชาติในไทย ซึ่งปี 2567 มีทั้งฝนตกหนัก น้ำท่วมภาคเหนือและใต้ รวมถึงภัยแล้ง ล้วนชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาสำคัญ จำเป็นต้องร่วมกันแก้ไขอย่างจริงจัง นอกจากนี้ ยังมีเรื่องกฎระเบียบต่าง ๆ ให้ผู้ประกอบการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อรักษาขีดความสามารถการแข่งขัน ประเทศไทยได้เริ่มใช้กลไกราคาโดยจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเชื้อเพลิง และอยู่ระหว่างร่าง พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่จะรวมทั้งมาตรการภาคบังคับ เช่น ระบบซื้อขายสิทธิการปล่อยคาร์บอน (ETS) และมาตรการสนับสนุน เช่น กองทุน Climate Fund ทั้งหมดนี้ เป็นผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนผ่านอาจไม่ใช่ต้นทุนเสมอไป แต่เป็นโอกาสสำหรับคนที่ปรับตัวได้เร็ว ธนาคารจะต้องช่วยให้ข้อมูลความรู้สนับสนุนประเด็นเหล่านี้มากขึ้น"
น.ส.นิรมาณ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ธนาคารกรุงเทพ ได้ทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการปรับตัวทั้งทางธุรกิจ การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเดินหน้าธุรกิจเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืน รวมถึงแนะนำผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่จะช่วยให้ลูกค้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน เช่น "สินเชื่อบัวหลวงกรีนเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม" (Bualuang Green Financing for Transition to Environmental Sustainability) เป็นสินเชื่อที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการดำเนินการอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบการค้าระดับโลกใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน รวมถึงกฎระเบียบในประเทศที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ ตัวอย่างโครงการที่สามารถขอสินเชื่อนี้ได้ เช่น การสร้างอาคารเขียว การแปลงระบบพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นไฟฟ้า การติดตั้งอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงาน และระบบบำบัดน้ำเสีย
ทั้งนี้ ธนาคารยังมีสินเชื่อบัวหลวงเพื่อการปรับตัวธุรกิจ (Bualuang Transformation Loan) สินเชื่อ Bualuang Transformation เพื่อสนับสนุนธุรกิจให้ปรับตัวเข้ากับโลกยุคใหม่ โดยเน้นการลงทุน 3 ด้าน ได้แก่ 1.เทคโนโลยีดิจิทัล 2.พลังงานสีเขียว และ 3.นวัตกรรม และสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan) โดยลูกค้าธุรกิจที่สามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน เช่น การลดก๊าซเรือนกระจก การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน หรือลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ก็จะได้รับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลง
นอกจากการให้คำแนะนำแก่ลูกค้าแต่ละรายแล้ว ธนาคารยังมีการจัดกิจกรรมสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้แก่ลูกค้าผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ธุรกิจไทยได้เข้าใจ และเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบและมาตรฐานในหัวข้อต่าง ๆ เช่น การลดต้นทุนธุรกิจด้วยพลังงานสะอาดโซลาร์รูฟ, การเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน: ก้าวแรกสู่ Net Zero, Digital Transformation for SME: เตรียมความพร้อมองค์กรสู่โลกใหม่ในกฎเกณฑ์ ESG, ยุคแห่งความยั่งยืน: การปรับตัวของภาคเกษตรไทย เป็นต้น สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารยังสนับสนุนให้ออกตราสารหนี้สีเขียวและความยั่งยืน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของธนาคาร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยครอบคลุมทั้งมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
"แต่ละบริษัท มีแนวทางการดำเนินการเปลี่ยนผ่านของตนเอง ในโลกยุคใหม่ที่ให้คุณค่ากับธุรกิจที่ดำเนินงานด้วยความยั่งยืน ธุรกิจไทยที่เตรียมพร้อมก่อนย่อมได้เปรียบ นี่คือเหตุผลที่ธนาคารกรุงเทพ ตั้งเป้าเป็นพันธมิตรกับลูกค้า เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจไทยสามารถสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนจากการเปลี่ยนผ่านนี้ได้อย่างมั่นใจ ทั้งยังสอดคล้องกับบทบาท 'เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน' ที่พร้อมเคียงข้างและสนับสนุนให้ลูกค้าเปลี่ยนผ่าน เพื่อคว้าโอกาสทางธุรกิจในโลกยุคใหม่ได้อย่างแข็งแกร่ง" น.ส.นิรมาณ กล่าว