BAM มั่นใจปี 68 ผลประกอบการดีสุดในรอบ 3 ปี ผลตอบแทนลงทุนใน AMC หนุน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 26, 2025 14:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ. บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ [BAM] เชื่อมั่นภาพรวมบริษัทแข็งแกร่ง คาดปี 2568 จะกลับมามีผลประกอบการดีที่สุดในรอบ 3 ปี รวมถึงได้รับผลตอบแทนจากเงินลงทุนในกิจการร่วมทุน JV AMC ได้แก่ ARI AMC และ ARUN AMC หนุนกระแสเงินสดต่อเนื่อง

ล่าสุด TRIS ยังคงอันดับเครดิตของ BAM ในระดับเดิมที่ "A-" แม้ปรับเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น "Negative" หรือ "ลบ" จาก "Stable" หรือ "คงที่"

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย รองประธานกรรมการ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAM เชื่อมั่นว่า ในปี 2568 BAM จะยังสร้างผลการดำเนินงานที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยในปีนี้ มีแนวโน้มฟื้นตัวจากแรงขับเคลื่อนของภาครัฐ ส่งผลดีต่อภาวะหนี้ครัวเรือน และธุรกิจ AMC (บริหารสินทรัพย์)

ทั้งนี้ BAM จะเร่งสร้างรายได้ ผ่านกลยุทธ์ 3S (Speed Up, Sustainable Income, Streamline Process) โดยตั้งเป้าหมายผลเรียกเก็บปี 2568 รวม 17,800 ล้านบาท จากการบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ (NPLs) 10,800 ล้านบาท และจากการขายทรัพย์สินรอการขาย (NPAs) 7,000 ล้านบาท

"แนวโน้มครึ่งปีแรก จะมีผลเรียกเก็บดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนค่อนข้างชัดเจน จากยอดการอนุมัติที่เริ่มดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี จึงมั่นใจว่า BAM จะทำผลประกอบการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้" นายบรรยง กล่าว

สำหรับการขยายฐานสินทรัพย์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา BAM ได้พิจารณาการลงทุนซื้อหนี้โดยคำนึงถึงโครงสร้างเงินทุน ความเสี่ยงในการลงทุน และโอกาสทางธุรกิจ โดย ณ สิ้นปี 2567 BAM มีพอร์ตบริหารหนี้ NPLs (รวม JV ทั้ง 2 แห่ง) มูลค่ารวม 523,513 ล้านบาท และมีพอร์ตทรัพย์สินรอการขาย NPAs มูลค่าตามราคาประเมินรวม 74,517 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อการดำเนินธุรกิจของ BAM ซึ่งพร้อมดำรงบทบาทในการเป็นองค์กรที่พลิกฟื้นสินทรัพย์ เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยให้มีการเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป

* โชว์ผลกำไรปี 67 แตะ 1.6 พันลบ. เติบโตต่อเนื่อง

นายบรรยง กล่าวถึงผลการดำเนินงานปี 2567 ว่า อยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยสามารถสร้างผลเรียกเก็บได้เป็นจำนวน 15,161 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2566 ที่ทำได้จำนวน 15,150 ล้านบาท ในขณะที่ผลกำไรอยู่ที่ 1,602 ล้านบาท ขยายตัว 4% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีผลกำไรอยู่ที่จำนวน 1,534 ล้านบาท ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากกลยุทธ์เชิงรุกในการบริหารจัดการ ทั้งทางด้าน NPLs และ NPAs

  • กลยุทธ์ด้าน NPLs เน้นการสร้างโอกาสและเร่งการประนอมหนี้ ได้แก่ โครงการช่วยเหลือลูกหนี้หลายโครงการ เช่น โครงการสุขใจได้บ้านคืน โครงการ BAM ช่วยฟื้นคืนธุรกิจ และโครงการ BAM ช่วยลดเพื่อปลดหนี้ รวมทั้งการเร่งการติดต่อและติดตามลูกหนี้ รวมทั้งเร่งกระบวนการขายทอดตลาด เช่น แถลงเร่งประกาศขายทอดตลาดทรัพย์หลักประกัน แถลงเร่งจัดทำบัญชีแสดงรายการรับจ่ายเงิน และร่วมมือกับกรมบังคับคดีจัดมหกรรมขายทอดตลาด เป็นต้น
  • กลยุทธ์ด้าน NPAs เน้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง โดยการออกบูธและจัดแคมเปญต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการขาย การจัดการทรัพย์ให้พร้อมอยู่ พร้อมใช้ (Renovate) การจำหน่ายทรัพย์ให้นักลงทุนรายย่อย ตลอดจนการกำหนดทรัพย์ราคาพิเศษ และการเพิ่มฐานลูกค้าผ่อนชำระอย่างต่อเนื่อง

แท็ก เครดิต  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ