สถาบันการเงินรัฐเร่งออกมาตรการช่วยเหลือผู้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว

ข่าวเศรษฐกิจ Sunday March 30, 2025 17:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สถาบันการเงินรัฐเร่งออกมาตรการช่วยเหลือให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แผ่นดินไหว โดยมีรายละเอียดของมาตรการดังนี้

1.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประกาศ 7 มาตรการช่วยเหลือลูกค้าและประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหวพักหนี้ ลดดอกเบี้ย ให้กู้ซ่อม-สร้าง และจ่ายสินไหม รายละเอียดมีดังนี้

1)สำหรับลูกค้าปัจจุบัน : ลดเงินงวดและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยพักชำระหนี้นาน 3 เดือน พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 0% ต่อปี 3 เดือนแรก และเดือนที่ 4 ? 12 คิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2.00% ต่อปี พร้อมลดเงินงวดลง 50%ของเงินงวดที่ชำระในปัจจุบัน โดยเมื่อครบระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ ลูกค้าสามารถกลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เดิมต่อไป

2)สำหรับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ : กู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซม หรือปลูกสร้างทดแทนหลังเดิม วงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 1 ? 3 เท่ากับ 0% ต่อปี พร้อมปลอดชำระเงินงวด

3)สำหรับลูกค้าสถานะ NPL ที่หลักประกันได้รับความเสียหาย ให้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก และไม่ต้องชำระเงินงวด จากนั้นเดือนที่ 7-18 อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน และเมื่อครบระยะเวลาประนอมหนี้ ให้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้

4)สำหรับลูกค้าสถานะ NPL ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้ประนอมหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก และผ่อนชำระเงินงวดเพียง 1,000 บาท (ตัดเงินต้นทั้งหมด) จากนั้น เดือนที่ 7-12 อัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน บวกอีก 100 บาท และเมื่อผ่อนชำระครบระยะเวลาประนอมหนี้ ให้ลูกค้ากลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้

5)สำหรับลูกค้าสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร ให้ผ่อนชำระ โดยใช้อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี ตลอดระยะเวลาที่คงเหลือ (พิจารณาเป็นรายกรณี)

6)สำหรับลูกค้าสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL หากที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลัง และไม่สามารถซ่อมแซมได้ ให้ปลอดหนี้ในส่วนของราคาอาคาร และให้ผ่อนชำระต่อเฉพาะในส่วนของที่ดินที่คงเหลือเท่านั้น (พิจารณาเป็นรายกรณี)

7)พิจารณาสินไหมเร่งด่วน (Fast Track) สำหรับลูกค้าที่ทำกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติกับบริษัทประกันภัยที่ธนาคารจัดให้ พิจารณาจ่ายค่าสินไหมให้กับลูกค้าที่ประสบภัยทุกราย อย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ โดยผู้เอาประกันสามารถแจ้งความเสียหายโดยใช้ภาพถ่าย จ่ายตามความเสียหายจริงไม่เกิน 20,000 บาท

ทั้งนี้ สามารถติดต่อขอรับสินเชื่อได้ที่สาขาของ ธอส. ได้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 และลูกค้าที่ประสงค์ขอรับบริการ "มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติปี 2568 " ในมาตรการที่ 1-4 สามารถติดต่อได้ที่สาขาของ ธอส. ได้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 และมาตรการที่ 5 ติดต่อได้ที่สาขาของ ธอส. ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป รวมถึงผู้ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการสินเชื่อซ่อม ? แต่ง สามารถยื่นคำขอกู้ได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ G H Bank Call Centerโทร.0-2645-9000 Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ Application : GHB ALL GEN หรือ www.ghbank.co.th

2.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ออกมาตรการ พักชำระหนี้เงินต้น-ดอกเบี้ย 12 เดือน และเพื่อซ่อมแซมฟื้นฟูกิจการ รายละเอียดมีดังนี้

1)มาตรการ "พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย"

สำหรับลูกค้าธนาคารที่ได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อม ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติตามที่ราชการกำหนด เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ด้วยการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย สำหรับกลุ่มเงินกู้ยืมแบบมีระยะเวลา (Term loan) สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน สัญญาเบิกเงินทุนหมุนเวียนประเภทตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) และสินเชื่อแฟคตอริ่ง ขยายระยะเวลาชำระตั๋วสัญญาใช้เงินออกไปอีกสูงสุด 180 วัน และสามารถพักชำระดอกเบี้ยได้

2)มาตรการ "เติมทุนฉุกเฉิน เพื่อซ่อมแซมฟื้นฟูกิจการ"สำหรับลูกค้าเดิมได้รับผลกระทบทางตรง ที่มีสถานประกอบการตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ภัยพิบัติตามที่ราชการกำหนด เพื่อให้มีวงเงินกู้ฉุกเฉิน นำไปฟื้นฟูธุรกิจเฉพาะหน้า วงเงินกู้ 10% ของวงเงินเดิม ขั้นต่ำ 30,000 บาท สูงสุด 200,000 บาท (บุคคลธรรมดา สูงสุด 100,000 บาท และนิติบุคคล สูงสุด 200,000 บาท) อัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี ระยะเวลากู้ 3 ปี ปลอดชำระเงินต้น 12 เดือน ไม่ต้องมีหลักประกัน ยกเว้นค่าธรรมเนียม ลดกระบวนการนำส่งเอกสารในการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทางตรงเป็นการเร่งด่วน

ผู้ประกอบการ SME สามารถแจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สาขาของ SME D Bank ทุกแห่งทั่วประเทศ LINE Official Account : SME Development Bank เว็บไซต์ www.smebank.co.th และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่Call Center 1357

3.บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ออกมาตรการ พักชำระค่าธรรมเนียม 6 เดือนสำหรับลูกค้า และพักชำระค่างวดจ่ายหนี้ 3 งวดสำหรับลูกหนี้ รายละเอียดมีดังนี้

1)มาตรการช่วยลูกค้า บสย. พักชำระค่าธรรมเนียมและค่าจัดการค้ำประกัน 6 เดือน สำหรับ SMEs ลูกค้า บสย. ที่ถึงกำหนดชำระค่าธรรมเนียมค้ำประกัน และค่าจัดการค้ำประกัน ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม ? 30 เมษายน 2568

2)มาตรการช่วยลูกหนี้ บสย. พักชำระค่างวด 3 งวด สำหรับลูกหนี้ บสย. (ผู้ประกอบการ SMEs ที่ บสย. จ่ายค่าประกันชดเชย) ที่อยู่ในระหว่างผ่อนชำระตามแผนปรับโครงสร้างหนี้ และไม่ผิดนัดชำระหนี้ โดยสามารถยื่นคำขอพักชำระหนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม-30 เมษายน 2568 และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่สำนักงานเขตในพื้นที่ ช่องทาง LINE OA TCG First: @tcgfirst หรือ บสย. Call Center โทร. 02-890-9999

4.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ออกมาตรการเติมสภาพคล่อง-ผ่อนปรนดอกเบี้ย-พักหนี้ รายละเอียดมีดังนี้

1)มาตรการช่วยเหลือสำหรับวงเงินกู้ระยะสั้น ได้แก่ ขยายระยะเวลาตั๋วสัญญาใช้เงิน สูงสุด 180 วัน เพิ่มวงเงินหมุนเวียนชั่วคราว สูงสุด 20% ของวงเงินหมุนเวียนเดิม ทั้งนี้ ไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยใช้อัตราดอกเบี้ยเดิม เปลี่ยนแปลงภาระหนี้ระยะสั้นเป็นภาระหนี้ระยะยาว ผ่อนชำระสูงสุด 3 ปี

2)มาตรการช่วยเหลือสำหรับวงเงินกู้ระยะยาว ได้แก่ ขยายระยะเวลาวงเงินกู้ สูงสุด 7 ปี ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ปีแรกลง 0.5% หรือจ่ายดอกเบี้ยเพียง 50% ในช่วง 6 เดือนแรก พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 1 ปี Top up วงเงินสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น

โดยช่องทางเข้าร่วมมาตรการ ลงทะเบียนผ่าน www.exim.go.th และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ EXIM Contact Center โทร. 0 2169 9999 และ Facebook "EXIM Bank of Thailand"

5.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดสินเชื่อฉุกเฉิน-ฟื้นฟู วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท รายละเอียดมีดังนี้

1)โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน วงเงินรายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% 6 เดือนแรก เดือนที่ 7 คิดอัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 6.725%)

2)โครงการสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต วงเงินรายละไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR ลบ 2 % ต่อปี สำหรับช่องทางขอรับสินเชื่อ สามารถแจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึง 30 กันยายน 2568 ที่ ธ.ก.ส. ใกล้บ้านท่านทุกสาขาทั่วประเทศ และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ผ่าน Call Center 02 555 0555 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

6. ธนาคารออมสิน

1)มาตรการแบ่งเบาภาระลูกหนี้ปัจจุบัน สำหรับสินเชื่อบ้าน สินเชื่อธนาคารประชาชน และสินเชื่อ SMEs โดยพักชำระเงินต้นทั้งหมด และลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 0 สูงสุดเป็นระยะเวลา 3 เดือน

2)มาตรการสินเชื่อเพื่อกู้ซ่อมแซมบ้าน กู้ฟื้นฟูกิจการ สำหรับลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่

  • สินเชื่อฉุกเฉิน วงเงินกู้สูงสุด 20,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 สูงสุดเป็นระยะเวลา 3 เดือน
  • สินเชื่อกู้ซ่อมแซมบ้าน และสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 สูงสุดเป็นระยะเวลา 3 เดือน

7. ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.)

1)มาตรการไอแบงก์ไม่ทิ้งกัน

ลูกค้าเดิม : พักชำระเงินต้นและกำไรสูงสุด 6 เดือน

ลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ : สามารถขอสินเชื่อ เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือฟื้นฟูกิจการ วงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท อัตรากำไรต่ำสุดร้อยละ 1.99 ในปีแรก และระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน 20 ปี

8. ธนาคารกรุงไทย [KTB]

1)มาตรการแบ่งเบาภาระลูกค้าสินเชื่อปัจจุบัน ลดค่างวดร้อยละ 75 ของค่างวดปัจจุบัน (ชำระเพียงร้อยละ 25) เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยลูกหนี้บ้านและ SMEs คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 เดือน หลังจากนั้นคิดดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.5 ต่อปี เป็นระยะเวลา 33 เดือน และ ลูกหนี้บุคคล คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.5 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี

2)มาตรการสินเชื่อเพื่อกู้ ซ่อมบ้าน/กู้ ฟื้นฟูกิจการ

  • ลูกค้าบ้าน และ SMEs คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0 เป็นระยะเวลา 3 เดือน หลังจากนั้น คิดดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.5 ต่อปี เป็นระยะเวลา 33 เดือน และ 2) ลูกค้าบุคคล คิดดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.5 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี
"รัฐบาลให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะด้านที่อยู่อาศัยและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ ธนาคารของรัฐเร่งออกมาตรการเยียวยาให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อธนาคารที่เกี่ยวข้องเพื่อขอรับความช่วยเหลือตามสิทธิที่กำหนด" นายอนุกูล ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ