วุฒิสมาชิก ชาร์ลส์ ชูเมอร์ ของสหรัฐ เรียกร้องให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ตรวจสอบกรณีที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ที่สูงเกินจริง และเรียกร้องให้ปรับมูดีส์หากบริษัทการเปิดเผยความผิดพลาดเป็นไปอย่างล่าช้า
"ผมขอเรียกร้องให้ SEC ยื่นมือเข้าตรวจสอบกรณีที่มูดีส์ให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ของบริษัทจดทะเบียนที่สูงเกินจริง และขอให้มีการคว่ำบาตรมูดีส์ที่เปิดเผยอันดับเครดิตที่ผิดพลาด การกระทำที่ขาดความรับผิดชอบเช่นนี้ควรจะหมดไปได้แล้วในยุคนี้" วุฒิสมาชิกชูเมอร์กล่าวในเอกสารที่ยื่นต่อนายคริสโตเฟอร์ ค็อกซ์ ประธาน SEC
ก่อนหน้านี้ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส และ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐและนักลงทุนบางกลุ่มตรวจสอบ หลังจากมีการร้องเรียนว่าสถาบันจัดอันดับเครดิตทั้งสองแห่งให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ที่เกี่ยวข้องกับตลาดซับไพรม์ที่สูงเกินไป และไม่มีปฏิกริยาตอบสนองที่รวดเร็วพอเมื่อบริษัทที่ออกหุ้นกู้เหล่านี้ผิดนัดชำระหนี้
ทั้งนี้ SEC วางแผนที่จะออกมาตรการฉบับใหม่ในเดือนหน้าเพื่อจำกัดผลกระโยชน์ทับซ้อน (conflict of interest) ของบริษัทจัดอันดับเครดิต และกระตุ้นให้มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ วุฒิสมาชิกจิม บันนิง ได้กล่าวหาสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศรายใหญ่ อาทิ S&P มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส และฟิทช์ เรทติ้งส์ ว่า สถาบันจัดอันดับเหล่านี้มีผลประโยชน์ทับซ้อนและปิดบังสถานะที่แท้จริงของบริษัทปล่อยกู้จำนอง จนเป็นเหตุให้กิดภาวะผันผวนในตลาดปล่อยกู้จำนองและสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุนทั่วโลก
มูดีส์ เอส แอนด์ พี และฟิทช์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงเมื่อผู้บริหารของสถาบันจัดอันดับทั้ง 3 แห่งออกมายอมรับว่า ทางสถาบันไม่ได้ส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงของตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (mortgage-Backed Securities หรือ MBS) ซึ่งตราสารหนี้เหล่านี้มีมูลค่าถดถอยลงเนื่องจากจำนวนบริษัทปล่อยกู้จำนองที่ประสบปัญหามีมากขึ้น โดยเฉพาะบริษัทปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพรม์)
ทั้งนี้ วุฒิสมาชิกบันนิง กล่าวว่า วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันมีความกังวลเรื่องลักษณะธุรกิจของบริษัทจัดอันดับเครดิตเหล่านี้ เนื่องจากบริษัทจัดอันดับเครดิตได้รับเงินจากบริษัทต่างๆเพื่อเป็นค่าธรรมเนียมในการจัดอันดับตราสารหนี้ ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับบริษัทผลิตภาพยนตร์ที่จ่ายเงินนักวิจารณ์ให้ไปดูภาพยนตร์ที่ตนสร้าง และนำบทวิจารณ์นั้นๆมาเป็นคำโฆษณาเชิญชวนให้ประชาชนไปดูภาพยนตร์ต่อไป สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--