นักวิเคราะห์ชี้เฟดลดคาดการณ์ศก.สหรัฐจะไม่กลายเป็นปัจจัยจุดชนวนลดดอกเบี้ยอีกครั้ง

          นักวิเคราะห์มองว่า การส่งสัญญาณการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะกระตุ้นให้มีการปรับลดดอกเบี้ยลงอีก เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อมากขึ้น
          รายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 29-30 เม.ย.ที่ผ่านมาชี้ว่า เจ้าหน้าที่หลายคนมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งแรก ในขณะเดียวกัน เฟดก็ได้ยกระดับการประเมินราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และระบุว่า ปัจจัยเสี่ยงต่างๆระหว่างการขยายตัวที่อ่อนตัวลงและเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นอยู่ในระดับที่สมดุลกันมากขึ้น
          วินเซนต์ เรนฮาร์ท อดีตหัวหน้าฝ่ายกิจการการเงินของเฟด และปัจจุบันเป็นนักวิชาการของสถาบันอเมริกัน เอ็นเตอร์ไพรซ์ กล่าวว่า เฟดคงจะใช้ความอดทนมากขึ้น และเฟดกำลังส่งสัญญาณให้เห็นว่า เฟดอาจจะพยายามควบคุมความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อด้วยการคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับที่ตึงตัวกว่าปกติในปี 2552
          รายงานของที่ประชุมเฟดบ่งชี้ว่า นายเบน เบอร์นานเก้ ประธานเฟดและผู้บริหารวิตกกังวลมากขึ้นกับการคาดการณ์ของประชาชนในเรื่องเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงในรอบ 12 ปีในเดือนนี้ โดยเทรดเดอร์เองคาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมในการประชุมเดือนหน้า และจะขึ้นดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปี
          โดยการตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงเหลือ 2% ของเฟดเมื่อวันที่ 30 เม.ย.นั้น ถือเป็นการตัดสินใจที่เห็นพ้องต้องกันของสมาชิกส่วนใหญ่ของเฟด สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน