ทองยังไปต่อ!! แม้มีแรงขายสลับ YLG ชี้นลท.แห่ซื้อ หลัง"ทรัมป์" กดดันเฟด

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 21, 2025 16:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทองยังไปต่อ!! แม้มีแรงขายสลับ YLG ชี้นลท.แห่ซื้อ หลัง

น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า แม้ในระยะนี้จะมีข่าวการเจรจาทางการค้าของสหรัฐฯ กับหลายประเทศคู่ค้า ส่งผลให้ในระยะสั้นอาจเกิดแรงขายทำกำไรทองคำสลับออกมาบางส่วน ซึ่งมองว่าส่วนหนึ่งมาจากราคาทองคำที่ได้ปรับตัวขึ้นมาอย่างรุนแรง

โดยจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน (เวลา 14.20 น.วันที่ 21 เม.ย.68) ทำระดับสูงสุดใหม่ 3,395.66 ดอลลาร์/ออนซ์ จากระดับดังกล่าวราคาทองคำโลกขึ้นมาแล้วถึง 771.84 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือปรับเพิ่มขึ้น 29.42% YTD

ส่วนราคาทองคำแท่ง 96.5% ของไทย ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 53,150 บาท/บาททองคำ ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 10,750 บาท/บาททองคำ หรือปรับเพิ่มขึ้น 25.35% YTD

ขณะที่ SPDR กองทุนทองคำขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ในปีนี้ได้ทำการเข้าซื้อสุทธิมาแล้วถึง 79.77 ตัน

แม้ว่าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะเปิดช่องเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน แต่ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ของจีนได้ออกมาเปิดเผยว่าจีนเคารพสิทธิของแต่ละประเทศ บนพื้นฐานของความเท่าเทียม แต่ขอคัดค้านอย่างหนักแน่นหากมีประเทศใดทำข้อตกลงที่ส่งผลเสียต่อจีนจะดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างเด็ดขาด ด้วยความผันผวนและความกังวลของนักลงทุนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง จึงจะยังคงมีความระมัดระวังในการลงทุนสูงเช่นกัน ขณะที่ดอลลาร์ยังคงดิ่งอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องจนทำระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี จากความเสี่ยงนโยบายภาษีของ "ทรัมป์" ในท้ายที่สุดแล้วจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ และเสี่ยงต่อภาวะถดถอย หรือ Recession

อีกทั้ง ยังมีปัจจัยความวุ่นวายภายในประเทศ หลังจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา "ทรัมป์" ปธน.สหรัฐ โพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ว่าการปลด "พาวเวล" ปธ.เฟด ไม่สามารถรอได้อีกต่อไป พร้อมวิจารณ์ว่าทำการปรับลดดอกเบี้ยล่าช้าเกินไป ปัจจัยดังกล่าวสะท้อนถึงความเสี่ยงในการดำเนินโยบายการเงินของเฟด ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ไม่ควรถูกแทรกแซงทางการเมือง จนเป็นหนึ่งในปัจจัยกระตุ้นให้เริ่มมีผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนรวมตัวกันที่กรุงวอชิงตัน และเมืองอื่น ๆ เพื่อประท้วงนโยบายของ "ทรัมป์" ปัจจัยเหล่านี้ ความเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยของทองคำจึงเด่นชัด ด้วยความเป็นอิสระต่อสหรัฐฯ และการเคลื่อนไหวที่ส่วนใหญ่ที่จะสวนทางกับดอลลาร์

นอกจากนี้ ปัจจัยสนับสนุนทองคำที่สำคัญในปีนี้ คือการเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางทั่วโลก โดยล่าสุดสภาทองคำโลก (WGC) ได้ประกาศตัวเลขการถือครองทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก โดยซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 ติดต่อกันในปี 2567 ด้วยปริมาณการเข้าซื้อทองคำระดับ 1,045 ตัน และถือเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่ความต้องการทองคำสูงเกิน 1,000 ตัน สำหรับปี 2568 ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงซื้อทองคำสุทธิ 24 ตันในช่วง 2 เดือนแรก นำโดยธนาคารกลางโปแลนด์ที่ซื้อทองคำสุทธิรวม 32 ตัน ซึ่งเป็นการซื้อต่อเนื่อง 11 เดือนติดต่อกัน ตามมาด้วยธนาคารกลางจีน (PBOC) ซึ่งซื้อทองคำเป็นอันดับ 2 โดยซื้อสุทธิเพิ่มขึ้น 10 ตัน ทำให้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจีนถือครองทองคำสำรองเพิ่มขึ้น 340 ตัน ล่าสุดขณะที่ PBOC เผยข้อมูลล่าสุดในเดือน มี.ค.ยังคงถือทองคำสำรองเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน

สำหรับคำแนะนำการลงทุนทองคำ ด้วยระดับราคาและความผันผวนที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่ยังมีโมเมนตัมในเชิงบวกอย่างชัดเจน ในช่วงนี้จึงแนะนำหาจังหวะย่อตัวลงเพื่อเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 3,321 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งหากยังยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ จะยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อตามแนวโน้มหลักได้ ลุ้นขึ้นทดสอบแนวต้าน 3,400-3,411 ดอลลาร์/ออนซ์ พร้อมแนะนำแบ่งขายทำกำไรหากราคาไม่ผ่านระดับดังกล่าว อย่างไรก็ดี ในทางกลับกันหากราคาหลุด 3,321-3,300 ดอลลาร์/ออนซ์ จะเสียโมเมนตัมในระยะสั้น และต้องระวังว่าราคาทองคำอาจสลับมาเข้าสู่ช่วงการพักตัวอีกครั้ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ