เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบเงินยูโรในการซื้อขายช่วงบ่ายวันนี้ (22 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายเงินยูโรที่แข็งค่าทำระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบเงินดอลลาร์
"เงินยูโรแข็งค่ามาก นักลงทุนจึงเทขายเงินยูโรเพื่อทำกำไรและซื้อเงินดอลลาร์กลับคืนมา" มาร์ค วัน หัวหน้านักวิเคราะห์จากฮั่งเส็ง อินเวสเมนท์ เซอร์วิสเซส กล่าว
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ณ เวลา 13.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (12.00 น.ตามเวลาประเทศไทย) เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.5763 ดอลลาร์ต่อยูโร ลดลงจาก 1.5794 ดอลลาร์ต่อยูโรในช่วงเช้าที่ตลาดออสเตรเลีย โดยก่อนหน้านั้นเงินยูโรพุ่งทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. ที่ 1.5802 ดอลลาร์ต่อยูโร
ในขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์อยู่ที่ระดับ 103.09 เยนต่อดอลลาร์ จาก 102.86 เยนต่อดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม คาดว่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าเพียงชั่วคราว เนื่องจากนักลงทุนยังมีความวิตกเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจสหรัฐ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจเหลือ 0.3% และปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อเป็น 3.4% สำหรับปีนี้
นอกจากนั้นเมื่อวานนี้คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดยังส่งสัญญาณว่าจะตรึงดอกเบี้ยไปอีกระยะหนึ่ง ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้น
"เราเห็นว่าเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของเฟด" เดวิด แมนน์ นักยุทธศาสตร์การเงินจากธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด กล่าว "เฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยมากกว่าขึ้นดอกเบี้ย ในทางตรงกันข้าม ธนาคารกลางยุโรปมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าลดดอกเบี้ย"
ธนาคารกลางยุโรปตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี มาตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ในขณะที่เฟดลดดอกเบี้ยแล้วรวม 3.25% ตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยนายแมนน์คาดว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนก.ย. ซึ่งจะทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก
จอห์น นูแนน นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Thomson IFR Markets กล่าวว่า "เฟดส่งสัญญาณว่าจะตรึงดอกเบี้ยก็จริง แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าเฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้แน่นอน"
ในขณะเดียวกัน ตลาดก็พร้อมรับมือกับความเป็นไปได้ที่ว่าธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางออสเตรเลียอาจประกาศขึ้นดอกเบี้ย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--