นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มอบนโยบายแบงก์รัฐทำหน้าที่เป็นหน่วยงานหลักช่วยเหลือประชาชนระดับล่างที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนจากราคาน้ำมัน โดยเฉพาะลูกค้าในกลุ่ม SME ลูกค้าโครงการธนาคารประชาชน และลูกค้ารายย่อย
"วันนี้ได้มอบนโยบายเพื่อหาแนวทางให้สถาบันการของรัฐช่วยเหลือลูกค้าให้เกิดความเข้มแข็ง โดยไม่ไ้ด้เน้นหรือวางเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อเท่านั้น เพื่อให้แบงก์รัฐเป็นหน่วยงานในการช่วยเหลือประชาชนระดับล่าง"นพ.สุรพงษ์ กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมสถาบันการเงินของรัฐ
เบื้องต้นในเดือนมิ.ย.-ก.ค.รัฐบาลจะมีการจัดงานมหกรรมใหญ่ในการเปิดให้ลูกค้าโครงการของรัฐบาลนำสินค้ามาขายในราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ประชาชนได้มีทางเลือกในการซื้อสินค้าได้ เริ่มที่กรุงเทพ และปริมณฑลก่อน โดยขณะนี้ประะสานงานกับกรมธนารักษ์จัดหาที่ราชพัสดุมาสร้างเป็นตลาดขายสินค้าถาวร เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบบมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ภาพรวมที่ผ่านมาระบบสถาบันการเงินของรัฐมีกำไรประมาณ 1.85 หมื่นล้านบาทถือเป็นระดับที่ดี โดยในด้านสินเชื่อภาคเกษตร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 75% สินเชื่อบ้าน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 40% ขณะที่ธนาคารออมสิน มีส่วนแบ่งตลาด 7.7%
สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้( NPL) ได้มีการตั้งธงที่จะต้องลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วน ธกส.มีเป้าหมายว่าจะลด NPL จาก 12% เหลือ 6% ใน 5 ปี ส่วนธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอี แบงก์) ลดจาก 44% เหลือ 17% ใน 5 ปีเช่นกัน
--อินโฟเควสท์ โดย คลฦ/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--