ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและเยน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานปรับตัวลดลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ยังคงอยู่ในภาวะเปราะบางอย่างมากเนื่องจากราคาน้ำมันดิบยังเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 130 ดอลลาร์/บาร์เรล และจากการประเมินเศรษฐกิจในด้านลบของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.5704 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.5789 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งขึ้นแตะระดับ 1.9783 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9716 ดอลลาร์/ปอนด์
หากเทียบกับสกุลเงินเยนและฟรังค์สวิส ดอลลาร์สหรัฐแข็งขึ้นแตะระดับ 103.98 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 102.96 เยน/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.0317 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0250 ฟรังค์/ดอลลาร์
ส่วนสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งขึ้นแตะระดับ 0.7842 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7773 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.9550 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9629 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 17 พ.ค.ลดลง 9,000 ราย สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนที่ 365,000 ราย ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคระห์คาดว่าจะอยู่ที่ 375,000 ราย
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กยังถูกปกคลุมด้วยความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 130 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ราคาน้ำมัน NYMEX พุ่งขึ้น 4.19 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 133.17 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบร่วงลงเกินคาดและค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังคงได้รับปัจจัยลบจากการที่เฟดปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2551 ลงสู่ระดับ 0.3-1.2% จากเดิมซึ่งคาดไว้ที่ระดับ 1.3-2.0% นอกจากนี้ เฟดคาดว่าอัตราว่างงานจะอยู่ในช่วง 5.5-5.7% ในปีนี้ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 5.2-5.3%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--