นักวิเคราะห์คาดมาตรการระตุ้นศก.สหรัฐหนุนตัวเลขจ้างงานไม่ถึง 5 แสนตำแหน่ง

          นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า การคาดการณ์ของนายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐที่ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการลดหย่อนภาษี จะช่วยให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 500,000 ตำแหน่งในปีนี้นั้น เป็นการคาดการณ์ที่สูงเกินจริง เนื่องจากผลกระทบด้านบวกที่เกิดจากมาตรการดังกล่าวเบาบางลงแล้ว
          วิลเลียม ดังเกลเบิร์ก นักวิเคราะห์จากสมาพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติในกรุงวอชิงตันกล่าวว่า "เรามองว่าการประมาณการณ์ของนายพอลสันสูงกว่าความเป็นจริง เห็นได้ชัดว่ามีคนตกงานและมีคนติดยาเสพติดเดินเกลื่อนถนนเต็มไปหมด มาตรการลดหย่อนภาษีอาจได้ผลในช่วงแรกๆ แต่ขณะนี้ผลกระทบดังกล่าวลดน้อยลงแล้ว"
          ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่า มาตรการลดหย่อนภาษีของรัฐบาลสหรัฐจะช่วยให้เกิดการจ้างงานเพียง 158,500 ตำแหน่ง ไม่ใช่ 500,000 ตำแหน่งตามที่รมว.คลังสหรัฐประเมินไว้
          นายพอลสันเดินทางไปยังเมืองแคนซัสซิตี้ รัฐมิสซูรี เพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.68 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเขากล่าวว่าเม็ดเงินกล่าว 1 แสนล้านดอลลาร์จะอยู่ในรูปเงินสดที่คืนสู่ผู้บริโภคและจะทำให้เกิดการจ้างงานใหม่ 500,000 ตำแหน่ง
          อีธาน แฮร์ริส นักวิเคราะห์จากเลห์แมน บราเธอร์ส กล่าวว่า "รมว.พอลสันประเมินตัวเลขจ้างงานสูงเกินไป เราคาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะทำให้เกิดการจ้างงานใหม่เพียง 100,000-200,000 ตำแหน่งใหม่เท่านั้น" 
          ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานจะอยู่ในช่วง 5.5-5.7% ในไตรมาส 4 ปีนี้ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 5.2-5.3% และคาดว่าตลาดแรงงานสหรัฐจะยังคงตึงตัวต่อไปอีก ขณะเดียวกันเฟดคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.1-3.4% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2.1-2.4% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน