(เพิ่มเติม) ปตท.-บางจากฯ ปรับราคาเบนซิน 50 สต.-ดีเซล 70 สต.มีผลพรุ่งนี้

          บมจ.ปตท.(PTT) ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศอีกครั้ง โดยเบนซินปรับขึ้นลิตรละ 50 สตางค์ ส่วนดีเซลปรับขึ้นลิตรละ 70 สตางค์ โดยมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันที่ 24 พ.ค.นี้เป็นต้นไป เนื่องจากค่าการตลาดติดลบหลังสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
          "จากการที่ต้นทุนน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นมากถึง 8-11 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ยิ่งทำให้บริษัทผู้ค้าน้ำมันต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็รับภาระเกือบลิตรละ 3 บาท ปตท.จึงจำเป็นต้องพิจารณาปรับราคาขายปลีกในประเทศ" นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน PTT กล่าว
          ทั้งนี้ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ของ ปตท.เป็นดังนี้ เบนซิน 95 อยู่ที่ลิตรละ 39.59 บาท, เบนซิน 91 อยู่ที่ลิตรละ 38.49 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ลิตรละ 35.59 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ลิตรละ  34.79 บาท และดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 36.64 บาท
          อย่างไรก็ตาม ราคาขายปลีกน้ำมันของ ปตท.ยังต่ำกว่าเชลล์ในส่วนของเบนซิน 95 ที่ตั้งไว้ที่ลิตรละ 40.59 บาท และดีเซลลิตรละ 37.64 บาท
          ขณะที่ราคาขายปลีกน้ำมันของบางจากฯ ในส่วนของเบนซินนั้นเท่ากับ ปตท. แต่ราคาดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 37.14 บาท ซึ่งสูงกว่า ปตท.อยู่ 50 สตางค์ แต่ต่ำกว่าเชลล์ 50 สตางค์
          นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ราคาน้ำมันโลกยังคงพุ่งแรงต่อเนื่องรายวัน โดยในวันนี้น้ำมันดิบดูไบขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 128.98 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 8.73 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล), น้ำมันเบนซินขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 140.55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 8.35 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) และน้ำมันดีเซลขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 173.10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 11.31 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) ผลจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 5.4 ล้านบาร์เรล/วัน มาอยู่ที่ระดับ 320.4 ล้านบาร์เรล/วัน 
          ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันยังคงสูงขึ้น โดยเฉพาะจีนมีการนำเข้าน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นถึง 3.93 ล้านบาร์เรล และญี่ปุ่นต้องการน้ำมันเบนซินเพื่อเก็บเป็นปริมาณสำรองทางยุทธศาสตร์ในปริมาณ 3.1 ล้านบาร์เรล เป็นต้น