ปลัดพลังงานเผยหักค่าการกลั่นดีเซลแต่ละรายไม่เท่ากัน เล็งดึงเอกชนร่วม

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 27, 2008 09:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ปลัดกระทรวงพลังงาน เผยแนวคิดเรียกเก็บเงินจากค่าการกลั่นดีเซลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอาจจะจัดเก็บจากโรงกลั่นแต่ละแห่งไม่เท่ากัน แต่จะอยู่ภายใต้เพดานไม่เกิน 1 บาท/ลิตร ซึ่งคาดว่าจะเป็นการจัดเก็บเข้ามาในกองทุนก่อนนำไปบริหารจัดการ โดยทางการจะเชิญโรงกลั่นเอกชนอีก 2 รายเข้ามาหารือเพื่อขอความร่วมมือในแนวทางเดียวกันด้วย หลังจากโรงกลั่นในเครือ บมจ.ปตท. (PTT)ตอบรับแนวทางดังกล่าวไปแล้ว 
นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า แนวทางที่เหมาะสมน่าจะเป็นการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุน แต่รายละเอียดของวิธีที่จะดำเนินการคงต้องหารือกับผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันอีกครั้ง
"ที่คิดเอาไว้คงเป็นการจัดเก็บเข้ากองทุนฯ" นายพรชัย กล่าวทางรายการวิทยุเช้านี้
เมื่อวานนี้(26 พ.ค.) พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน ได้เรียกผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันในเครือ บมจ.ปตท.(PTT) มาหารือเพื่อขอให้ลดค่าการกลั่นลงไม่เกินลิตรละ 1 บาท ซึ่งประกอบด้วย บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น(PTTAR), บมจ.ไทยออยล์(TOP), บมจ.ไออาร์พีซี(IRCP) และ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP)
สำหรับเงินที่เรียกเก็บเข้ากองทุนน้ำมันฯ นั้นจะต้องพิจารณาให้รอบคอบว่าจะนำไปบริหารจัดการอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยต้องหาข้อสรุปว่าจะนำเงินดังกล่าวไปช่วยบรรเทาปัญหาเฉพาะบางกลุ่มธุรกิจหรือช่วยเหลือเป็นการทั่วไป ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันเป็นอย่างดี
"ทุกคนก็เห็นขณะนี้ธุรกิจอยู่ในสภาพวิกฤติแล้ว เหลือธุรกิจเดียวที่ยังกำไรอยู่ ถ้าเป็นสนามรบก็เห็นคนแขนขาดขาขาดกันหมดแล้ว เหลืออยู่อันเดียวที่ยังนั่งกินอยู่อย่างสบาย และเป็นมาตรการชั่วคราวเท่านั้น" นายพรชัย กล่าว
ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันมีค่าการกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 5-6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ดังนั้นการขอความร่วมมือในครั้งนี้คงไม่ได้ทำให้ได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะยังถือว่าธุรกิจมีกำไรอยู่ เพื่อช่วยให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศยังอยู่ได้ อีกทั้งไม่ได้กำหนดตายตัวว่าผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันแต่ละรายต้องลดค่าการกลั่นในอัตราที่เท่ากัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ