นักเศรษฐศาสตร์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นคาดว่า ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐอาจจะตกลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี และความเชื่อมั่นผู้บริโภคหดตัวลง ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าภาวะวิกฤตตลาดที่อยู่อาศัยกำลังดึงรั้งเศรษฐกิจสหรัฐ
ผลการสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย.จะลดลง 1.1% มาอยู่ที่ 520,000 หลัง ซึ่งถือเป็นยอดขายที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2534 ส่วนอีกรายงานหนึ่งคาดว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนพ.ค.จะร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2536
ความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าบ้านที่ตกลงและกฎระเบียบการกู้ที่มีความเข้มงวดมากขึ้นกำลังเป็นปัจจัยที่จำกัดความต้องการ และทำให้ยอดการยึดทรัพย์สินที่จำนองมีจำนวนเพิ่มขึ้น ผู้บริหารของธนาคารกลางสหรัฐมองว่า แนวโน้มที่ราคาบ้านจะลดลงและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสถาบันการเงินนั้นจะเป็นความเสี่ยงที่สำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
แพททริค นิวพอร์ท นักเศรษฐศาสตร์ของโกลบอล อินไซท์ อิงค์ กล่าวว่า ราคาบ้านหลายเขตร่วงลง และยังร่วงลงในอัตราที่รวดเร็วขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับถดถอย และราคาน้ำมันก็ถีบตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ จากสถานการณ์เหล่านี้ทำให้ฤดูการขายบ้านช่วงนี้ซบเซาเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยรายงานยอดซื้อบ้านใหม่คืนนี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็นคาดว่า ยอดขายบ้านใหม่จะอยู่ที่ 500,000-570,000 หลัง ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค.อยู่ที่ 526,000 หลัง
ส่วนคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยรายงานตัวเลขความเชื่อมั่นในคืนนี้เช่นกัน โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นจะลดลงเหลือ 60 จุด จากระดับ 62.3 จุดในเดือนเม.ย.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--