ดอลล์อ่อนค่าเล็กน้อยเทียบเยน-ยูโร เหตุนักลงทุนวิตกราคาน้ำมัน

ข่าวต่างประเทศ Tuesday May 27, 2008 13:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบเงินเยนและเงินยูโรในการซื้อขายช่วงบ่ายวันนี้ (27 พ.ค.) สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงรวมถึงผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ด้านบรรยากาศการซื้อขายโดยรวมยังซบเซาเพราะนักลงทุนลังเลที่จะลงทุน เนื่องจากตลาดเงินสหรัฐและอังกฤษเพิ่งเปิดหลังจากที่ปิดทำการเนื่องในวันหยุดเมื่อวานนี้
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ณ เวลา 13.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (11.00 น.ตามเวลาประเทศไทย) เงินดอลลาร์ซื้อขายที่ระดับ 103.32 เยนต่อดอลลาร์ ลดลงจาก 103.40 เยนต่อดอลลาร์ในช่วงเช้าที่ตลาดออสเตรเลีย และ 103.43 เยนต่อดอลลาร์ในตลาดยุโรปเมื่อวานนี้ ในขณะที่เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.5786 ดอลลาร์ต่อยูโร เพิ่มขึ้นจาก 1.5781 ดอลลาร์ต่อยูโรในตลาดออสเตรเลีย และ 1.5770 ดอลลาร์ต่อยูโรในตลาดยุโรป
จอห์น นูแนน นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Thomson IFR Markets กล่าวว่า ทิศทางของเงินดอลลาร์ในระยะสั้นจะถูกกำหนดโดยราคาน้ำมัน โดยราคาน้ำมันที่พุ่งสูงก่อให้เกิดกระแสความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจย่ำแย่ลงกว่าเดิมเนื่องจากผู้บริโภคต้องแบกรับค่าใช้จ่ายมากขึ้น
การที่กลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนได้เข้าโจมตีท่อส่งน้ำมันของเชลล์ในพื้นที่สามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำไนเจอร์ ประเทศไนจีเรีย จนส่งผลให้เกิดน้ำมันรั่วไหลและต้องระงับการผลิตชั่วคราว ทำให้สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ที่ 133.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อคืนนี้ ก่อนที่จะขยับลงมาสู่ระดับ 132.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
"นักลงทุนให้ความสำคัญกับสภาพเศรษฐกิจสหรัฐมากกว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้น พวกเขากำลังรอข้อมูลเศรษฐกิจซึ่งกำลังจะมีการเปิดเผยในวันนี้" โยสุเกะ โฮโซกาว่า ดีลเลอร์จาก Chuo Mitsui Trust & Banking กล่าว
คืนนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย. ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะลดลงจากเดือนมี.ค. ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.ของ The Conference Board ก็คาดว่าจะลดลงเช่นกัน
ส่วนในวันศุกร์กระทรวงพาณิชย์จะเผยตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนเม.ย ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะมีการขยายตัว 0.2% เทียบกับเดือนมี.ค.ที่มีการขยายตัว 0.4%
นอกจากนั้นตลาดยังรอข้อมูลตัวเลขความสูญเสียจากวิกฤตซับไพร์มของสถาบันการเงินในสหรัฐ เนื่องจากธนาคารรายใหญ่หลายแห่งในสหรัฐจะปิดงบการเงินในเดือนนี้ พร้อมเปิดเผยผลประกอบการณ์ประจำไตรมาสในเดือนหน้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ