สนพ.ชี้เป็นเรื่องเหมาะสมที่โรงกลั่นจะนำส่วนต่างฯ มาช่วยแก้วิกฤติ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 27, 2008 14:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

         นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เห็นด้วยที่ผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันจะนำส่วนต่างค่าการกลั่นมาช่วยเหลือประชาชน เนื่องจากที่ผ่านมาส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันดิบกับน้ำมันดีเซลมีความแตกต่างกันมาก โดยในปี 50 มีความแตกต่างเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 3.65 บาทต่อลิตร
"เป็นเรื่องที่เหมาะสม เพราะจะเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชนในยุคน้ำมันแพง ขณะที่ประชาชนเองก็ควรหันมาประหยัดพลังงานด้วยเช่นกัน ซึ่งสามารถเลือกวิธีง่ายๆ เช่น วางแผนก่อนเดินทาง การจูนอัพรถยนต์ ขับรถเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม. ทางเดียวกันไปด้วยกัน(Car Pool) หรือเลือกใช้พลังงานทดแทน ได้แก่ แก๊สโซฮอล์ ไบโอดีเซล และ NGV" นายวีระพล กล่าว
นายวีระพล กล่าวว่า ในปีนี้ส่วนต่างระหว่างน้ำมันดิบดูไบและน้ำมันดีเซลเฉลี่ยในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค.51 อยู่ที่ระดับ 5.75 บาทต่อลิตร หรือเพิ่มขึ้น 2.10 บาทต่อลิตรเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.51 ส่วนต่างอยู่ที่ระดับ 7-9 บาทต่อลิตร เพราะความต้องการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วของจีนและอินเดียได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นเมื่อพิจารณาต้นทุนค่าการกลั่นที่เกิดขึ้นจริงแล้วจะเห็นว่าไม่ได้เพิ่มขึ้น การที่โรงกลั่นจะนำส่วนต่างค่าการกลั่นมาช่วยเหลือประชาชนในภาวะวิกฤตน้ำมันเช่นนี้จึงเป็นการเหมาะสม ทั้งนี้ทางกระทรวงพลังงานได้มอบนโยบายให้ทาง สนพ.ติดตามและประเมินสถานการณ์ส่วนต่างระหว่างน้ำมันดิบดูไบและน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอย่างใกล้ชิด
วานนี้หลังจากกระทรวงพลังงานหารือกับกลุ่มโรงกลั่น ประกอบด้วย บมจ.ไทยออยล์ (TOP), บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP), บมจ.ไออาร์พีซี (IRCP) และ บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR) ยินดีที่จะลดค่าการกลั่นน้ำมันดีเซลหน้าโรงกลั่นในอัตราไม่เกินลิตรละ 1 บาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ