นักวิเคราะห์ชี้อินโดฯขึ้นราคาน้ำมันลดแรงกดดันงบประมาณแค่ชั่วคราว เหตุราคายังพุ่งต่อ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday May 27, 2008 16:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นักวิเคราะห์เตือนว่า ผลพวงด้านบวกจากการที่รัฐบาลอินโดนีเซียได้ตัดสินใจขึ้นราคาน้ำมันเพื่อลดแรงกดดันด้านงบประมาณของรัฐ และกระตุ้นความเชื่อมั่นในตลาดเงินและค่าเงินรูเปียห์นั้น อาจจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากยังมีความเสี่ยงที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นมากกว่านี้
นอกจากนี้ อินโดนีเซียจำเป็นต้องควบคุมการใช้เชื้อเพลิงที่ได้รับเงินอุดหนุน หากว่าอินโดนีเซียต้องการควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณ มิฉะนั้นแล้ว รัฐบาลอินโดนีเซียอาจจะถูกบีบให้ขึ้นราคาน้ำมันอีกครั้ง เพื่อให้ประเทศบรรลุเป้าหมายด้านการเงินได้ ซึ่งรัฐบาลอินโดนีเซียก็เคยย้ำมาแล้วว่า รัฐบาลไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้เรื่องการขึ้นราคาน้ำมันอีกครั้ง
อินโดนีเซียได้ขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย 28.7% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีผลบังคับใช้วันที่ 24 พ.ค. เพื่อรับมือกับราคาน้ำมันโลกที่พุ่งสูงขึ้น และการใช้เงินอุดหนุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน
เอริค อเล็กซานเดอร์ ซูกานดี นักเศรษฐศาสตร์ของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด แบงก์ กล่าวว่า การขึ้นราคาน้ำมันโดยเฉลี่ย 28.7% นั้นไม่ได้ช่วยให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณมากนัก เมื่อพิจารณาจากราคาน้ำมันในปัจจุบัน
ราคาน้ำมันได้พุ่งเหนือระดับ 133 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากที่มีข่าวเหตุการณ์รุนแรงในไนจีเรีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกสำคัญของแอฟริกา โดยราคาน้ำมันส่งมอบเดือนก.ค.ตลาด NYMEX ที่มีการซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดเอเชีย พุ่ง 1.03 ดอลลาร์ แตะ 133.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เดวิด โคเฮน นักเศรษฐศาสตร์ของแอ็คชั่น อิโคโนมิคส์ กล่าวว่า ปัจจัยที่มีความเสี่ยงมากที่สุดหากว่าราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ก็คือ รัฐบาลจะไม่มีทางเลือกใดๆนอกจากการขึ้นราคาน้ำมันอีกครั้ง เพื่อรักษาระดับงบประมาณ มิเช่นนั้น ค่าเงินรูเปียห์ก็จะตกลง และทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อรุนแรง สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ