มาเลเซียจะสั่งห้ามสถานีบริการน้ำมันที่ตั้งอยู่ตามชายแดนติดกับไทยและสิงคโปร์ ขายน้ำมันให้กับชาวต่างชาติ เพื่อที่จะควบคุมต้นทุนการใช้เงินอุดหนุนราคาน้ำมันไม่ให้พุ่งสูงขึ้นมากไปกว่านี้
รองนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการดังกล่าว เนื่องจากรัฐบาลกำลังนำเงินภาษีของประชาชนไปใช้อุดหนุนราคาน้ำมันซึ่งอยู่ในระดับสูงมาก แต่กลับกลายเป็นว่าน้ำมันดังกล่าวถูกขายให้กับผู้ที่ไม่สมควรจะได้รับสิทธิ
ทางด้านชารีร์ ซามัด รัฐมนตรีกระทรวงการค้ามาเลเซีย กล่าวว่า คำสั่งห้ามขายน้ำมันให้ผู้ขับขี่ยานยนต์ชาวต่างชาตินี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันศุกร์ที่จะถึงนี้ไปจนกว่ารัฐบาลจะประกาศกลไกใหม่ๆในการขายเชื้อเพลิงให้แก่ประชาชน ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดนี้เป็นการดำเนินการอย่างเข้มงวดของรัฐบาลเพื่ออุดรอยรั่วของเงินอุดหนุน และประชาชนที่มีรายได้ต่ำของประเทศก็ควรจะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการใช้เงินอุดหนุนนี้
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า คำสั่งห้ามครั้งนี้มีผลกับสถานีบริการน้ำมันถึง 300 แห่ง และครอบคลุมระยะทางถึง 50 กิโลเมตรจากชายแดนในรัฐทางเหนือ ได้แก่ รัฐเพอร์ลิส เคดาห์ เปรัค และกลันตัน รวมทั้งรัฐยะโฮทางตอนใต้ที่ติดกับสิงคโปร์
ทั้งนี้ มาเลเซียอาจจะต้องใช้เงินอุดหนุนเชื้อเพลิงถึง 4.3 หมื่นล้านริงกิต หรือ 1.36 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ หากราคาน้ำมันพุ่งอยู่ในช่วง 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ที่ผ่านมา มาเลเซียได้ให้เงินอุดหนุนน้ำมันเชื้อเพลิง ดีเซล และแก็ส รวมทั้งสินค้าประเภทอาหาร 21 ประเภท แต่ราคาสินค้าที่สูงขึ้นทั่วโลกทำให้เกิดภาวะขาดแคลน รวมทั้งการลักลอบขนส่งสินค้าตามแนวชายแดนและชายฝั่ง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--