สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราของออสเตรเลียช่วงเช้านี้ ซึ่งเป็นการแข็งค่าต่อเนื่องจากเมื่อคืนนี้ เนื่องจากเทรดเดอร์มองว่าดอลลาร์ถูกเทขายมากเกินไปในเดือนนี้ ส่วนปัจจัยอื่นๆที่หนุนดอลลาร์ได้แก่ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างหนัก และการแสดงความคิดเห็นในด้านบวกของนางเจเน็ท เยลเลน ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 08.25 น.ตามเวลาประเทศไทยในวันนี้ สกุลเงินดอลลาร์แข็งขึ้นแตะระดับ 104.26 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 104.25 เยน/ดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.5685 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.5690 ดอลลาร์/ยูโร
นางเยลเลนกล่าวว่า การที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยและอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลนั้น นับว่ามากพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐให้ขยายตัวปานกลางในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจาก ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลง 3.34 ดอลลาร์ หรือ 2.5% แตะระดับ 128.85 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ เนื่องจากแรงขายทำกำไร และสกุลเงินยูโรที่อ่อนตัวลงหลังจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของฝรั่งเศสดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2.5 ปี
นายจอห์น นูนาน นักวิเคราะห์จากธอมสัน ไอเอฟอาร์ มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า นักวิเคราะห์มองว่าการที่ราคาน้ำมันปรับฐานลงอย่างรุนแรงได้ช่วยผ่อนคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กรุยทางให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นในที่สุด
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--