มอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า ราคาอาหารที่ปรับตัวลดลงเมื่อไม่นานมานี้มีแนวโน้มว่าจะฉุดดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค.ของจีนลดลงสู่ระดับ 7.6-8.0% จากเดือนเม.ย.ที่ระดับ 8.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 12 ปี
มอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยในรายงานรายสัปดาห์โดยอ้างอิงข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ราคาผักและเนื้อในจีนปรับตัวลงมากพอที่จะชดเชยการพุ่งขึ้นของราคาไข่ ราคาธัญพืช และน้ำมันปรุงอาหารที่ทรงตัว โดยในช่วง 3 สัปดาห์แรกของเดือนพ.ค. ราคาผักลดลง 5.6% ราคาเนื้อลดลง 0.3% ราคาไข่เพิ่มขึ้น 1.7%
ทั้งนี้ ราคาอาหารที่สูงขึ้นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อของจีนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเมื่อไม่กี่เดือนมานี้
มอร์แกน สแตนลีย์คาดว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของจีนจะค่อยๆปรับตัวลดลงในปีนี้ เนื่องจากอุปทานภายในประเทศของจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นและราคาอาหารในตลาดโลกมีเสถียรภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม มอร์แกน สแตนลีย์เตือนว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในมณฑลเสฉวนของจีนเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา จะทำให้แรงกดดันด้านราคาพุ่งสูงขึ้นในระยะสั้น
"หากไม่มีภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดขึ้นอีก เราก็เชื่อว่าเงินเฟ้อของจีนจะค่อยๆปรับตัวลงในปีนี้อย่างแน่นอน" มอร์แกน สแตนลีย์กล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--