ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) สกุลเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ดีเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจตรึงอัตราดอกเบี้ยหรืออาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.5644 ดอลลาร์/ยูโร จากวันอังคารที่ระดับ 1.5684 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่สกุลเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.9803 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9759 ดอลลาร์/ปอนด์
หากเทียบกับสกุลเงินเยนและฟรังค์สวิส ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 104.70 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 104.24 เยน/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.0376 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0345 ฟรังค์/ดอลลาร์
ส่วนสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลงแตะระดับ 0.7850 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7888 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.9625 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย 0.9584 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
นายไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ นิวยอร์ก กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย.ลดลง 0.5% แต่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ไม่นับรวมสินค้าด้านอุปกรณ์การขนส่ง พุ่งขึ้น 2.5% ซึ่งพุ่งขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 9 เดือน
"นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้น" นายวูลฟอล์คกล่าว
ก่อนหน้านี้ดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักเมื่อสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนพ.ค.ร่วงลงแตะระดับ 57.2 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี และเป็นสถิที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียล/ไอเอฟอาร์ มาร์เกตส์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 60.0 จุด
นอกจากนี้ คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงลงเกินคาด หลังจาก Standard & Poor`s/Case-Shiller เปิดเผยว่า ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยของสหรัฐในไตรมาสแรกร่วงลง 14.1% จากสถิติปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2531
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--