นายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐเตรียมเดินทางเข้าพบกับคณะผู้นำของซาอุดิอาระเบียและประเทศอื่นๆในกลุ่มอาหรับ โดยจะกล่าวถึงประเด็นที่ว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์กำลังกลายเป็นภาระอันหนักหน่วงต่อเศรษฐกิจโลก
นายเดวิด แมคคอร์มิค รมช.คลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศของสหรัฐกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "ท่านรัฐมนตรีพอลสันเดินทางไปยังซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีเป้าหมายที่จะบอกให้ผู้นำของประเทศอาหรับรับรู้ว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นกำลังสร้างภาระให้กับเศรษฐกิจโลก อีกทั้งยังเป็นภาระที่หนักหน่วงให้กับครัวเรือนและผู้บริโภค ซึ่งไม่เพียงแต่สหรัฐเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศต่างๆทั่วโลกด้วย"
"ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวอย่างไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน และไม่คิดว่าในระยะสั้นนี้ จะสามารถแก้ปัญหาน้ำมันแพงได้" นายแมคคอร์มิค
เมื่อคืนนี้ ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้นเหนือระดับ 131 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากความกังวลต่อข่าวที่ว่ากลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ในไนจีเรียวางแผนลอบวางระเบิดรถยนต์ในวันพฤหัสบดี เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีที่นายอูมารู ยาร์อาดัว ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไนจีเรีย
นายแมคคอร์มิคกล่าวว่า นายพอลสันซึ่งเคยเป็นซีอีโอของโกลด์แมน แซคส์ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งรมว.คลังสหรัฐ จะแจ้งให้ผู้นำประเทศอาหรับทั้ง 3 ประเทศทราบว่า สหรัฐจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในสหรัฐมากขึ้น โดยเฉพาะกองทุนบริหารความมั่งคั่งของรัฐบาล (SWF) ในประเทศผู้ผลิตน้ำมัน
"นอกจากนี้ ท่านรัฐมนตรีพอลสันจะสนับสนุนให้ประเทศเหล่านี้ปล่อยให้ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวไปตามกลไกตลาด อีกทั้งยังสนับสนุนให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันเปิดตลาดน้ำมัน เพื่อกระตุ้นการลงทุนทั้งด้านการสำรวจและผลิตน้ำมัน และแน่นอนว่าต้องสนับสนุนการหาแหล่งพลังงานทางเลือกใหม่ด้วย" นายแมคคอร์มิคกล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--