ดรากอน แคปิตอล ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนรายใหญ่ที่สุดของเวียดนามที่สินทรัพย์ 2 พันล้านดอลลาร์ คาดว่า ธนาคารกลางเวียดนามจะเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินที่พุ่งเป้าไปที่การบริหารสกุลเงินดองมาเป็นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยเงินดองของเวียดนามตกลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ขณะที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ได้ปรับลดแนวโน้มอัตราหนี้สินของเวียดนามลงในสัปดาห์นี้ และมอร์แกน สแตนลีย์ระบุว่า เวียดนามกำลังเข้าสู่วิกฤตการเงิน เนื่องจากเงินดองยังคงแข็งค่าขึ้นเกินไป
ดรากอน แคปิตอลระบุว่า การควบคุมปริมาณการหมุนเวียนของเงินทุน จะช่วยรับประกันได้ว่าเวียดนามจะสามารถเอาตัวรอดจากวิกฤตการเงินเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับเงินบาทของไทยเมื่อปี 2540
สกุลเงินดองแข็งค่าขึ้น 0.3% ในปีที่แล้ว ขณะที่เวียดนามได้ยกเลิกนโยบายการปรับลดค่าเงินแบบที่มีการบริหารจัดการที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เงินดองร่วงลงถึง 30% ในช่วงกว่า 11 ปีที่ผ่านมา ในปีนี้ ธนาคารกลางเวียดนามได้เปิดทางให้เงินดองอ่อนค่าลง 1.4% เนื่องจากหุ้นร่วงลงและราคาสินค้าอุปโภคบริโภคพุ่งขึ้น 25% ในเดือนพ.ค. จากระดับปีที่แล้ว
เงินดองร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 7 มาอยู่ที่ 16,237 ดองต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อเวลา 9.01 น.ตามเวลาในไทย จากระดับ 16,235.5 ดองต่อดอลลาร์ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งบ่งชี้ว่า เทรดเดอร์กำลังคาดการณ์กันว่า เงินดองจะร่วงลง 24% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ มาอยู่ที่ 21,350 ดองต่อดอลลาร์ในปีหน้า
วี หมิง ติง หัวหน้าฝ่ายการเงินของพิคเท็ท แอสเส็ท เมเนจเมนท์ กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ค่อยมีนักลงทุนที่อยากจะเข้ามาทำธุรกรรมในรูปสกุลเงินดอง ซึ่งนับเป็นสถานการณ์ที่วิกฤตสำหรับเวียดนาม สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--