ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนเมษายน 2551 อยู่ที่ 43.0 ปรับลดลงจาก 47.3 ในเดือนก่อน เป็นการปรับลดลงตามการลดลงขององค์ประกอบเกือบทุกด้าน ยกเว้นการจ้างงานที่มีระดับเดียวกับเืดือนก่อน
หากพิจารณาความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการจำแนกตามสาขาการผลิต พบว่า ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการเกือบทุกสาขา ยกเว้น สาขาสาธารณูปโภค ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจได้เผชิญกับต้นทุนการผลิตและราคาวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้า ปรับลดลงมาอยู่ที่ 49.9 โดยองค์ประกอบด้านการลงทุน และ การจ้างงานปรับตัวลดลง รวมทั้งต้นทุนการผลิตที่ยังเพิ่มขึ้น ในขณะที่คำสั่งซื้อ การผลิต และผลประกอบการปรับตัวเพิ่มขึ้น
นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธปท.กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นที่ปรับตัวลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนราคาสินค้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก และยอมรับว่าความเชื่อมั่นส่วนหนึ่งมีผลมาจากภาวะแวดล้อม ทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่ดี ซึ่งหากจุดนี้สามารถคลี่คลายลงได้บ้างก็จะช่วยในเรื่องความเชื่อมั่นได้ในระดับหนึ่ง
ทั้งนี้ หากรัฐบาลเข้ามาดูแลปัฐหาเศรษฐกิจของประเทศด้วยการออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อบรรเทาภาวะของประชาชนอย่างต่อเนื่องต่อไปก็จะมีส่วนช่วยสร้างความมั่นใจให้เพิ่มขึ้น
"ที่กดดันจริง ๆ คือต้นทุนราคาน้ำมัน ส่งผลให้ราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มมากขึ้นจากปีก่อน ตรงนี้อาจทำให้การก่อสร้างล่าช้า โดยเฉพาะโครงการลงทุนภาครัฐที่มีผลต่อการประเมินราคากลาง และการเปิดประมูลที่อาจล่าช้าออกไป ซึ่งเอกชนที่เคยตั้งความหวังไว้ หากโครงการล่าช้าออกไปก็อาจบั่นทอนการลงทุนได้"นางอมรา กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--