นักเศรษฐศาสตร์มองว่า ยอดขายปลีกของเยอรมนีที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องในเดือนเม.ย. 2551 นั้น ถือเป็นสัญญาณยืนยันเพิ่มเติมว่า อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงกำลังเป็นปัจจัยที่ควบคุมการใช้จ่ายภาคครัวเรือน
โดยยอดขายปลีกของเยอรมนีตกลง 1.7% ในเดือนเม.ย. หลังจากที่ลดลงไป 2.2% ในเดือนมี.ค. ซึ่งได้มีการประเมินก่อนหน้านี้ว่า ยอดขายปลีกเดือนมี.ค.จะลดลงแตะระดับ 1.9%
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์มองว่า ต้นทุนเชื้อเพลิงและอาหารที่สูงขึ้นกำลังส่งผลกระทบต่อรายได้ของครัวเรือนให้มีปริมาณที่ลดลง และทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น
แมทธิอัส รูบิส จากคอมเมิร์ซแบงค์ กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดชี้ให้เห็นว่าผลกระทบจากราคาสินค้าที่รุนแรงที่สุดเป็นอย่างไร ช่วงขาลงของยอดขายปลีกเกิดขึ้นในช่วงกลางปีที่แล้ว ส่วนใหญ่เนื่องมาจากราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก และราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นอย่างมากในเดือนนี้ก็จะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในภาคค้าปลีกในอนาคตอันใกล้นี้เช่นกัน
อเล็กซานเดอร์ โคช จากยูนิเครดิต กล่าวว่า ราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นมากเมื่อเร็วๆนี้ ตลอดจนผลิตภัณฑ์อาหารที่มีราคาสูงขึ้นมาโดยตลอด ทำให้เงินเฟ้อจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
นักเศรษฐศาสตร์รายอื่นๆกล่าวว่า ยอดขายปลีกเดือนเม.ย.ที่ลดลง 2.9% จากระดับไตรมาสแรก ทำให้อัตราการขยายตัวการบริโภคภาคเอกชนในไตรมาส 2 เป็นเรื่องยาก
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--