ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (30 พ.ค.) สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขรายได้ส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.5557 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.5515 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่สกุลเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.9809 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9767 ดอลลาร์/ปอนด์
หากเทียบกับสกุลเงินเยนและฟรังค์สวิส ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับ 105.39 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 105.50 เยน/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.0423 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0487 ฟรังค์/ดอลลาร์
สกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7833 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7789 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.9555 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9553 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคลของชาวสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ในเดือนเม.ย.และรายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคลซึ่งไม่นับรวมยอดซื้อสินค้าในหมวดอาหารและพลังงาน ขยับขึ้นเพียง 0.1%
นักลงทุนมองว่า แม้รัฐบาลสหรัฐประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นวงเงิน 1.06 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงการคืนภาษีให้กับผู้บริโภค แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นมากนัก
ขณะที่สกุลเงินยูโรได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า อัตราว่างงานของเยอมนีซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโร ร่วงลงแตะระดับ 7.8% ซึ่งเป็นสถิติที่ต่ำกว่าระดับ 8% เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 16 ปี
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--