นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน อาจต้องประสบปัญหาหนักในการรับมือกับภาวะเงินเฟ้อหลังเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ถล่มจีน
แม้อัตราเงินเฟ้อจะพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี แต่ผู้ว่าการธนาคารกลางก็ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.18% นับตั้งแต่ธนาคารกลางประกาศใช้มาตรการควบคุมทางการเงินอย่าง "เข้มงวด" เมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนั่นทำให้ประชาชนยังยืมเงินและใช้เงินมากขึ้น
ยิ่งกว่านั้น เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 58 ปี ทำให้การควบคุมราคาเป็นไปอย่างยากลำบากมากขึ้นและอาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นในอัตราที่รวดเร็วยิ่งกว่าเดิม
"คณะกรรมการกำหนดนโยบายกำลังทำผิดมหันต์" แอนดี้ เซียะ อดีตนักเศรษฐศาสตร์ของมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าว "อัตราเงินเฟ้อค่อยๆพอกพูนตลอดหลายปีที่ผ่านมา หนทางที่ถูกต้องในการแก้ปัญหาดังกล่าวคือ ทางธนาคารกลางต้องขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ติดกัน 4-5 ครั้ง"
ในเดือนเม.ย. อัตราเงินเฟ้อของจีนพุ่งแตะ 8.5% หรือเพิ่มขึ้น 2% จากเดือนธ.ค. ในขณะที่อัตราเงินกู้ประเภท 1 ปีอยู่ที่ระดับ 7.47% ส่วนอัตราเงินฝากประเภท 1 ปีอยู่ที่ระดับ 4.14% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--