ขุนคลังสหรัฐชี้สหรัฐไม่ปิดกั้นการลงทุนจากตปท.-มุ่งส่งเสริมดอลลาร์แข็งค่า

          นายเฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ เตรียมกล่าวในการสัมนาที่สมาคมธุรกิจสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และสหรัฐอเมริกาจัดขึ้นที่นครอาบูดาบีว่า สหรัฐต้องการเปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศ ในขณะเดียวกันก็จะเปิดรับการลงทุนจากบริษัทเอกชนและกองทุนเพื่อความมั่งคั่งจากต่างประเทศเช่นกัน 
          การเดินทางเยือนประเทศภูมิภาคอ่าวครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของนายพอลสันในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ และเป็นครั้งแรกหลังจากที่เกิดความขัดแย้งเมื่อ 2 ปีที่แล้วเกี่ยวกับการที่บริษัท ดีพี เวิลด์ พยายามจะเข้าควบคุมท่าเรือสหรัฐ 6 แห่ง ส่งผลให้ชาวอเมริกันไม่พอใจจนสภาคองเกรสต้องเพิ่มความเข้มงวดกับบริษัทต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศ จนทำให้นักลงทุนในภูมิภาคอ่าวตั้งคำถามเกี่ยวกับนโยบายการเปิดกว้างด้านการลงทุนของสหรัฐ
          ทั้งนี้ รมว.คลังสหรัฐได้กล่าวถึงภารกิจสำคัญที่เขาต้องทำเป็นลำดับแรกคือ การแก้ไขความเข้าใจผิดๆที่ว่า สหรัฐสนับสนุนให้มีการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ทั้งที่เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงและข้อมูลตัวเลขแล้ว จะเห็นได้ว่าแนวโน้มในเรื่องดังกล่าวดีขึ้น โดยที่ผ่านมานั้น การซื้อกิจการของนักลงทุนในกลุ่มประเทศภูมิภาคอ่าวขยายตัวขึ้นมากกว่า 100% ในช่วง 2 ปีที่แล้ว และมูลค่าของข้อตกลงดังกล่าวที่คิดเป็นเงินดอลลาร์นั้นก็พุ่งสูงกว่า 400%
          นอกจากนี้รมว.คลังย้ำด้วยว่า ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงนี้เป็นภาระสำหรับทั้งสหรัฐและเศรษฐกิจโลก ซึ่งถือเป็นประเด็นที่สร้างความกดดันมากที่สุดในภูมิภาค และยังมีแนวโน้มที่จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคอ่าวและนานาประเทศมีความผันผวนมากยิ่งขึ้น ซึ่งประเทศในแถบภูมิภาคอ่าวไม่สามารถบรรเทาแรงกดดันในตลาดน้ำมันโลกได้เพียงฝ่ายเดียว ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงนี้เป็นผลมาจากปัจจัยเรื่องอุปทานและอุปสงค์ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง 
          รมว.คลังสหรัฐยังได้กล่าวย้ำถึงความมุ่งมั่นในการทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งว่า กระทรวงการคลังมุ่งมั่นในการส่งเสริมให้มีการใช้นโยบายที่สนับสนุนความสามารถในการแข่งขันให้กับระบบเศรษฐกิจสหรัฐ และสร้างความเชื่อมั่นว่า เงินดอลลาร์จะยังคงเป็นสกุลเงินหลักในสำรองเงินตราต่างประเทศของประเทศต่างๆทั่วโลก สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงาน