สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดว่า อุตสาหกรรมการบินโดยรวมจะขาดทุนถึง 2.3 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ เนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา IATA คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกปีนี้จะมีกำไร 4.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการปรับลดคาดการณ์ลงถึง 4 เท่าในรอบ 9 เดือน โดยราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นถึง 42% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และความต้องการที่ชะลอตัวลงอันเนื่องมาจากตลาดสินเชื่อที่ตึงตัวทั่วโลกทำให้อุตสาหกรรมสายการบินได้รับผลกระทบอย่างหนักในปีนี้ หลังจากที่ปีที่แล้ว อุตสาหกรรมการบินทำกำไรไปได้ถึง 5.6 พันบ้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการทำกำไรได้เป็นครั้งแรกหลังจากที่เกิดเหตุวินาศกรรมในสหรัฐเมื่อปี 2544
โจวานนี บิซิญานี ซีอีโอของ IATA กล่าวว่า ในขณะที่เราเริ่มฟื้นตัวก็กลับมีปัจจัยมากระทบอีก ราคาน้ำมันที่ทะยานสูงขึ้นกำลังเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ทุกอย่าง และทำให้อุตสาหกรรมมีแนวโน้มย่ำแย่
ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีสายการบินมากกว่า 12 สายการบินที่ประสบภาวะล้มละลาย โดยมีซิลเวอร์เจ็ท ของอังกฤษเป็นเหยื่อรายล่าสุด หลังจากที่ขาดเงินสดหมุนเวียน โดยก่อนหน้านั้นไม่กี่สัปดาห์ โอเอซิส ฮ่องกง แอร์ไลน์ส ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำที่บินระยะไกล, โคลัมบัส, สกายไลน์ แอร์ไลน์ส ในโอไฮโอ และฟรอนเทียร์ แอร์ไลน์ส ก็ประสบภาวะล้มละลายเช่นกัน สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--