นักวิเคราะห์คาดดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐเดือนพ.ค.ร่วงลงเป็นเดือนที่ 4

          นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนพ.ค.จะปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 เนื่องจากผู้บริโภคปรับลดอัตราการใช้จ่าย           
          นักวิเคราะห์ 69 คนจากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ดัชนีภาคการผลิตของสถาบันจัดการอุปทานในเดือนพ.ค.จะปรับตัวลดลง 48.5 จากระดับ 48.6 ในเดือนเม.ย. เนื่องจากผู้ประกอบการหลายแห่งต่างปรับลดกำลังการผลิต เนื่องจากราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่มูลค่าสินทรัพย์ปรับตัวลดลง สวนทางกับอัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ชาวอเมริกันลดการซื้อรถและข้าวของเครื่องใช้ลง อย่างไรก็ตาม อุปสงค์จากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นช่วยชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นให้เป็นไปในกรอบที่จำกัด แม้ว่าอุปสงค์ในโรงงานหลายแห่งจะชะลอตัวแต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ดีกว่าภาวะขาลงเมื่อช่วงที่ผ่านมา
          นอกจากนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นที่มีต่อข้อมูลเศรษฐกิจอีกรายการหนึ่งซึ่งมีกำหนดจะเปิดเผยในเวลาเดียวกัน ระบุว่า ตัวเลขค่าใช้จ่ายในโครงการก่อสร้างอาจปรับตัวลดลง 0.6% ในเดือนเม.ย. ซึ่งจะเป็นการร่วงลงเป็นเดือนที่ 6 ในรอบ 7 เดือน เนื่องจากภาวะซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเลวร้ายลงเรื่อยๆ
          ทั้งนี้ ผลผลิตอุตสาหกรรมชะลอตัวมาตลอด เนื่องจากมียอดขายที่ซบเซา โดยบริษัทออโต้ดาต้า คอร์ป ในวูดคลิฟ เลก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ระบุว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ยอดสั่งซื้อรถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็กร่วงลงไปอยู่ที่ระดับ 4.83 ล้านคัน ซึ่งเป็นระดับที่ลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2538