S&P แนะรัฐบาลในแถบเอเชียเร่งลดภาวะไร้สมดุลทางการค้า

         สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ชี้ว่า ยอดเกินดุลการค้าของเศรษฐกิจและกลุ่มผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ในแถบเอเชียได้ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการกระจายความมั่งคั่งมากขึ้นแต่ก็ทำให้เกิดภาวะไร้สมดุลการค้าโลกอย่างมากเช่นกัน ดังนั้น รัฐบาลประเทศต่างๆจะต้องลดภาวะไร้สมดุลการค้าในปัจจุบันลง แม้ว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่สร้างความเจ็บปวดก็ตาม
          S&P ชี้ว่า สหรัฐมีอคติในเรื่องการขาดดุลการค้า และหากยอดขาดดุลการค้าลดลง ยอดเกินดุลของประเทศใดประเทศหนึ่งจะต้องหดตัวลง หรือไม่ก็ยอดขาดดุลการค้าของประเทศใดประเทศหนึ่งก็จะขยายตัวขึ้น ประเทศส่วนใหญ่จะดูแลและให้ความสำคัญกับยอดเกินดุลการค้าของตนเอง โดยกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันนั้นมียอดเกินดุลรวม 6.00 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนจีนและญี่ปุ่นมียอดเกินดุลรวม 4.00 แสนล้านดอลลาร์
          สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า S&P ระบุว่า อาจจะต้องมีประเทศใดประเทศหนึ่งที่มียอดขาดดุลการค้า 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือไม่ก็มีการลดยอดเกินดุลลง และมีแนวโน้มว่ากลุ่มประเทศโอเปคจะไม่ลดยอดเกินดุลของกลุ่มลงในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งจะหมายความว่า จะมีแรงกดดันมายังญี่ปุ่นและจีนให้ลดยอดเกินดุลการค้ามากยิ่งขึ้น