พาณิชย์เสนอกขช.เปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังหวังช่วยดึงราคาขึ้น

          นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ในสัปดาห์หน้าที่มีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน กรมฯ จะเสนอให้กขช.พิจารณาเปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง เพื่อช่วยเหลือชาวนาในช่วงที่ราคาข้าวเปลือกเจ้าตกต่ำมาก 
          เนื่องจาก ขณะนี้ องค์การคลังสินค้า (อคส.) ยังไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาซื้อข้าวโดยตรงจากชาวนาที่ตันละ 14,000 บาท ตามมติของกขช.ก่อนหน้านี้ได้ เพราะคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) ไม่ครบองค์ประชุม กระทรวงพาณิชย์จึงต้องเสนอให้เปิดโครงการรับจำนำแทน 
          “จะเปิดรับจำนำหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกขช. หากเปิดรับจำนำจะต้องคำนวณราคาใหม่ จากเดิมที่กขช.มีมติให้ อคส. ซื้อขาดตันละ 14,000 บาท ราคาใหม่อาจต่ำกว่า 14,000 บาท เพราะราคาตลาดลดลงแล้ว และปกติจะนำราคาตลาดย้อนหลัง 3 ปีมาถัวเฉลี่ย ส่วนปริมาณยังไม่ได้กำหนด แต่ขณะนี้มีผลผลิตข้าวเปลือกนาปรังประมาณ 4 ล้านตัน หากมีข้าวเข้าโครงการ 1 ล้านตัน จะช่วยดึงราคาตลาดให้ขึ้นมาได้ เพราะเป็นการส่งสัญญาณว่าชาวนามีทางเลือกในการขายข้าว เพื่อให้โรงสีและผู้ส่งออกรับซื้อข้าวในราคาสูงขึ้น" นายยรรยงกล่าว
          นอกจากนี้ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตร (คชก.) สัปดาห์หน้า กระทรวงพาณิชย์จะเปิดโครงการรับจำนำกุ้ง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง เพราะขณะนี้ราคาตกต่ำมาก เพราะผลผลิตกุ้งปีนี้ตัวเล็ก ไม่ได้มาตรฐานส่งออก ประกอบกับ สหรัฐฯชะลอการนำเข้าหลังจากมีข่าวว่าอุตสาหกรรมกุ้งไทยใช้แรงงานเด็ก ส่วนราคารับจำนำ และปริมาณ คชก.จะเป็นผู้ตัดสินใจ นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์กำลังจัดรณรงค์การบริโภคกุ้ง และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือในเรื่องการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้เลี้ยงกุ้งด้วย 
          ทางด้านนายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือให้อธิบดีกรมการค้าภายในเร่งแก้ปัญหาราคาข้าวเปลือกเจ้าตกต่ำ สวนทางกับราคาข้าวส่งออก โดยหากภายใน 2 วัน รัฐบาลยังไม่แก้ปัญหา ชาวนาทั่วประเทศจะรวมตัวประท้วง 
          ส่วนการที่รัฐบาลเคยประกาศจะรับซื้อข้าวขาดจากชาวนาตันละ 14,000 บาทนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มรับซื้อเลย จนราคาข้าวตกลงเรื่อยๆ 
          อย่างไรก็ตาม ชาวนาต้องการให้เปิดโครงการรับจำนำมากกว่าการซื้อขาด โดยกำหนดราคารับจำนำข้าวเปลือกเจ้า 15% ที่ตันละ 15,000 บาท หากต่ำกว่านี้ เช่น ตันละ 13,000 บาท เมื่อซื้อจริงจะได้ไม่ถึง 11,000 บาท ขณะที่ต้นทุนอยู่ที่ตันละกว่า 11,000 บาทแล้ว