องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) เปิดเผยว่า ความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออกของจีนจะลดลงอย่างต่อเนื่องในปีนี้ไปจนถึงปีหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากอัตราเงินเฟ้อ ค่าแรง และความต้องการในต่างประเทศที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง
รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจรอบครึ่งปีของ OECD ระบุว่า เศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัวลงสู่ระดับที่ยั่งยืนมากขึ้น และมีปัจจัยบ่งชี้ว่า รูปแบบการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงไปจากการส่งออกมาเป็นความต้องการภายในประเทศ อย่างไรก็ดี แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกระแสเงินตราต่างประเทศเพื่อเก็งกำไรที่เข้ามาในจีนเพิ่มขึ้นยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคการขยายตัวแบบที่มีความสมดุลมากขึ้น
การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนได้ชะลอตัวลงเล็กน้อย มาอยู่ที่ 10.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสแรกของปีนี้ และคาดว่าจะอ่อนตัวลงในช่วงที่เหลือของปี 2551/2552 เนื่องจากการส่งออกที่ลดลง และยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่คาดว่าจะร่วงลงสู่ระดับ 9.5% ของ GDP ภายในปี 2552
อัตราการขยายตัว GDP จีนในปีนี้ อยู่ที่ 10.00% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วที่ 11.90% ส่วนของปีหน้าคาดว่าจะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 9.50%
OECD ระบุว่า การขยายตัวของความต้องการภายในประเทศของจีนคาดว่าจะยังคงสดใส เนื่องจากรายได้ที่ดีช่วยผลักดันการบริโภค ส่วนเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอันเนื่องมาจากราคาอาหารที่แพงมาก แต่คาดว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงในระดับหนึ่งเมื่อราคาอาหารมีเสถียรภาพ และช่วยชดเชยราคาสินค้านอกภาคการเกษตรที่สูงขึ้น สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--