สรรพากรเผยยอดจัดเก็บภาษีเดือนพ.ค.51 เพิ่มขึ้น 18% อยู่ที่ 2.53 แสนลบ.

          นายศานิต ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ยอดจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรในเดือน พ.ค.51 อยู่ที่ 253,642 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 39,000 ล้านบาท คิดเป็น 18% และสูงกว่าประมาณการ 26,000 ล้านบาท โดยสาเหตุที่จัดเก็บภาษีได้สูงขึ้นเนื่องจากธนาคารพาณิชย์มีผลกำไรมากขึ้นหลังจากที่ไม่ต้องกันสำรองตามมาตรฐานบัญชีสากล IAS ขณะที่สามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ได้มากขึ้นจากยอดการนำเข้าวัตถุดิบและน้ำมันที่เพิ่มขึ้น
          สำหรับยอดจัดเก็บภาษีสรรพากรในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 51(ต.ค.50-พ.ค.51) จัดเก็บได้ 820,000 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 98,500 ล้านบาท คิดเป็น 13.6% และสูงกว่าประมาณการ 44,000 ล้านบาท คิดเป็น 5.7%
          ด้านนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง กล่าวว่า แม้กรมสรรพากรจะสามารถจัดเก็บภาษีได้เกินกว่าเป้าหมาย แต่เชื่อว่าหลังจากที่รัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆ ด้านภาษี จึงคาดว่าในช่วงจากนี้ไปกรมสรรพากรอาจได้รับผลกระทบจากการออกมาตรการดังกล่าวบ้าง โดยเฉพาะภาษีธุรกิจเฉพาะ จากมาตรการกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยประเมินว่ามาตรการภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรประมาณ 42,000 ล้านบาท แต่ยังเชื่อว่าทั้งปีจะยังเก็บภาษีได้ใกล้เคียงเป้าหมายที่ตั้งไว้
          อย่างไรก็ตาม จากการที่กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีได้เกินกว่าเป้าหมายนั้น เป็นตัวสะท้อนว่าประชาชนยังเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งเห็นได้จากการบริโภคและการลงทุนที่ขยายตัว แต่หากไม่มีปัญหาการเมืองเข้ามาเชื่อว่าการจัดเก็บภาษีของกรมฯ จะทำได้ดีกว่านี้