ปุ๋ยเคมีส่อเค้าแพงนาน 2 ปี ความต้องการใช้พุ่ง-เกษตรกรเร่งเพิ่มผลผลิต

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 5, 2008 10:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่า ราคาปุ๋ยเคมีในอีก 2 เดือนข้างหน้าจะปรับเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20% และแนวโน้มราคาจะยังแพงต่อเนื่องไปอีก 2 ปี เนื่องจากข้อจำกัดในการขยายกำลังการผลิตและความต้องการปุ๋ยเคมียังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 
สำหรับปี 51 ราคาปุ๋ยเคมีในตลาดโลกที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ เป็นเพราะปริมาณการผลิตไม่สามารถขยายตัวได้ทันกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ทำให้การค้าปุ๋ยเคมีในตลาดโลกตึงตัว โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ความต้องการเพิ่มขึ้นรวดเร็ว เพราะหลายประเทศต่างต้องการผลิตสินค้าเกษตร ทั้งพืชอาหารและพืชพลังงานทดแทน ทำให้เกิดการแย่งพื้นที่เพาะปลูกและเกษตรกรต่างต้องการปุ๋ยเคมีมาขึ้นเพื่อเพิ่มผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่
"ราคาปุ๋ยแพงถือเป็นปัญหาใหญ่ของเกษตรกรไทย เพราะโดยเฉลี่ยแล้วต้นทุนปุ๋ยเคมีคิดเป็น 19-20% ของต้นทุนการเพาะปลูกพืชทั้งหมด ดังนั้นการที่ราคาปุ๋ยเคมีมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องจะส่งผลกระทบให้ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรสูงขึ้น เกษตรกรจึงเสียโอกาสที่จะได้อานิสงค์จากราคาพืชผลที่อยู่ในเกณฑ์สูงในปัจจุบัน" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
ทั้งนี้ปุ๋ยเคมีที่นำเข้ามีการปรับราคาเพิ่มขึ้นทุกเดือน ตั้งแต่ต้นปี 51 เฉลี่ย 17-20% ต่อเดือน จึงทำให้ผู้ค้าปุ๋ยยื่นเรื่องขอปรับราคามาที่กระทรวงพาณิชย์ 123 รายการ แบ่งเป็นขอปรับราคา 104 รายการ และขอตั้งราคา 19 รายการ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาปุ๋ยเคมีให้ปรับขึ้นราคาได้และขอให้ผู้ค้าตรึงราคาไว้ก่อน แม้กรมการค้าภายในจะวิเคราะห์ต้นทุนการจำหน่ายและมีข้อสรุปว่าเห็นควรให้ปรับขึ้นราคาจำหน่ายหน้าโรงงานได้ก็ตาม
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้ว่า การที่รัฐบาลมีมาตรการนำเข้าปุ๋ยเคมี 20,000 ตัน จากต่างประเทศเพื่อจำหน่ายโดยตรงให้แก่เกษตรกรนั้น ถือเป็นการแก้ปัญหาในช่วงสั้นและมีวงจำกัด ทั้งนี้รัฐบาลและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องควรส่งเสริมให้เกษตรกรไทยเร่งปรับตัวให้ได้อยู่ในภาวะที่ปุ๋ยเคมีราคาแพง โดยการให้ความรู้ในเรื่องการใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อลดปริมาณการนำเข้าปุ๋ยเคมี
ในขณะที่การปรับตัวของผู้จำหน่ายปุ๋ยในประเทศเอง หลังจากที่นำเข้าแม่ปุ๋ยมาแล้วจะต้องปรับสูตรการผลิตให้มีความหลากหลาย ตลอดจนอบรมให้ความรู้เกษตรกรเพื่อให้สามารถแยกแยะปุ๋ยจริงกับปุ๋ยปลอมได้ ซึ่งจะช่วยปกป้องเกษตรกรและปกป้องธุรกิจการจำหน่ายปุ๋ยเคมี เพราะช่วงที่ปุ๋ยมีราคาแพงนี้ปริมาณปุ๋ยปลอมก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ