พาณิชย์บีบตรึงราคาเหล็กจนกว่าได้ข้อสรุปศึกษาโครงสร้างราคา

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 6, 2008 08:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้ผลิตและผู้ใช้เหล็ก รวมถึงสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)และสถาบันเหล็กและเหล็กกล้า เพื่อหารือถึงสถานการณ์เหล็กว่า ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ผลิตเหล็กยื่นราคาขายตามราคาแนะนำที่กรมได้ประกาศออกมาในเดือนพ.ค.ต่อไปจนกว่าจะมีการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาเหล็ก และพิจารณารายละเอียดต้นทุนต่างๆ ก่อน จึจะสามารถเปลี่ยนแปลงราคาใหม่ได้ 
ทั้งนี้ ผู้ผลิตก็ได้รับปากที่จะใช้ราคาดังกล่าว แม้ขณะนี้แนวโน้มต้นทุนสินแร่เหล็ก รวมถึงเศษเหล็ก ทั้งบิลเล็ต และสแล๊ป จะมีราคาสูงขึ้นมาก
"ผู้ผลิตแจ้งว่า ขณะนี้ต้นทุนในการผลิตเหล็กสูงขึ้นมาก เช่น บิลเล็ต จากต้นปีตันละ 800 เหรียญสหรัฐ แต่ตอนนี้ 1,200 เหรียญ สินแร่เพิ่มขึ้นกว่า 135% รวมถึงค่าพลังงาน ค่าถ่านหินที่ใช้ถลุงเหล็ก รวมถึงค่าน้ำมันที่ใช้ในการขนส่ง แต่พร้อมที่จะยืนราคาเหล็กไว้ก่อน"นายยรรยง กล่าว
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ใช้เหล็ก กรมจะจัดทำราคาแนะนำขายปลีกเหล็กที่ปลายทาง โดยแยกเป็นกลุ่มจังหวัด ซึ่งจะเป็นราคาขายปลีก รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และรวมค่าขนส่งไปในแต่ละจังหวัด เพื่อให้ผู้ใช้สามารถรู้ราคาที่แท้จริงว่าควรจะเป็นเท่าใด ไม่ใช่ให้ผู้ค้าตั้งราคาขายเองตามใจชอบ
ขณะเดียวกันจะมีเจ้าหน้าที่กรมออกตรวจสอบการกักตุนและการจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันปัญหาเหล็กขาดแคลน พร้อมกันนั้น ได้ขอให้ผู้ใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง และผู้ผลิต ทำแผนการใช้ และการผลิตร่วมกัน รวมถึงแผนการขาย เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ใช้ จากการที่ภาวะเหล็กมีราคาสูงขึ้นมากจนผู้ใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างเกือบจะรับไม่ได้แล้ว
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก ส.อ.ท. กล่าวว่า แนวโน้มราคาวัตถุดิบในตลาดโลกจะยังคงพุ่งต่อไป ซึ่งจะมีผลทำให้ราคาเหล็กภายในประเทศต้องปรับเพิ่มขึ้นตาม แต่ทางกลุ่มจะรอประเมินสถานการณ์หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์อนุมัติให้ปรับราคาเหล็กอีกกิโลกรัมละ 7 บาทไปก่อนว่าผลเป็นอย่างไร ผู้ใช้รับราคาที่ปรับขึ้นได้หรือไม่ และจากนั้นจะหารือกันในเรื่องการขอปรับราคาต่อไปภายใน 2-3 เดือนนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ