หนังสือพิมพ์บิสนิส อินโดนีเซียรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนางศรี มัลยานี อินทราวตี รัฐมนตรีคลังอินโดนีเซียว่า รัฐบาลจะยังไม่ปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิงที่ได้รับเงินอุดหนุนในปีนี้ แม้ว่าในช่วง 6 เดือนต่อจากนี้ น้ำมันดิบในประเทศจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลได้ปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยเกือบ 30% เพื่อควบคุมการจ่ายเงินอุดหนุนด้านเชื้อเพลิง หลังจากราคาน้ำมันพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ตัวเลขงบประมาณที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาระบุว่า ในปีนี้รัฐบาลสามารถจ่ายเงินอุดหนุนด้านเชื้อเพลิงได้กว่า 135 ล้านล้านรูเปียห์ จากที่คาดการณ์ในเบื้องต้นที่ 45.8 ล้านล้านรูเปียห์ ทั้งนี้ เฉพาะเงินอุดหนุนด้านเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียวนั้นมีสัดส่วนเกือบ 14% ของตัวเลขการใช้จ่ายของรัฐบาลในปีนี้
จากการทบทวนตัวเลขงบประมาณสามารถสรุปได้ว่า ราคาน้ำมันดิบอินโดนีเซีย (ICP) จะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเทียบกับราคาเบื้องต้นที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบในอินโดนีเซียจะต่ำกว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกประมาณ 5 ดอลลาร์
"หากราคาเฉลี่ยของ ICP ระหว่างเดือนมิ.ย.-ธ.ค.2551 อยู่ที่ 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตัวเลขงบประมาณจะยังคงอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ ขณะที่ยอดขาดดุลจะอยู่ต่ำกว่าระดับ 2.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ" นางอินทราวตีกล่าว
เงินอุดหนุนเชื้อเพลิงอาจพุ่งขึ้นไปแตะที่ 198.7 ล้านล้านรูเปียห์ แต่รัฐบาลจะใช้มาตรการด้านนโยบายการคลังและนโยบายอื่นๆเพื่อควบคุมตัวเลขงบประมาณ มากกว่าที่จะใช้มาตรการปรับขึ้นราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ รมว.คลังอินโดนีเซียกล่าวว่า ทางเลือกของรัฐบาลที่อาจนำมาใช้นั้นจะรวมถึงการปรับลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงที่ได้รับเงินอุดหนุน ซึ่งขณะนี้สูงขึ้นถึง 38.9 ล้านกิโลลิตร จากระดับคาดการณ์เบื้องต้นที่ 35.5 ล้านกิโลลิตร
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ราคาเฉลี่ยของ ICP อยู่ที่ระดับ 104.8 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงพุ่งขึ้นแตะ 13 ล้านกิโลลิตร
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--