สมาคมนายธนาคารด้านการปล่อยกู้จำนองของสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนบ้านที่ถูกยึดและอัตราการผิดนัดชำระหนี้ค่าผ่อนบ้านในสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสแรก และคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะสูงขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า วิกฤตการณ์ในตลาดที่อยู่อาศัยกำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกลุ่มเจ้าของบ้านและเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ
ทั้งนี้ สมาคมฯระบุว่า อัตราการผิดนัดชำระหนี้พุ่งขึ้นแตะระดับ 6.35% ในไตรมาสแรก เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2550 ที่ 5.82% ส่วนจำนวนบ้านที่ถูกยึดเพิ่มขึ้นเป็น 0.99% ในไตรมาสแรก เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2550 ที่ 0.83% ทั้งอัตราการผิดนัดชำระหนี้และจำนวนบ้านที่ถูกยึดต่างก็พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
เจย์ บริงค์มานน์ รองประธานฝ่ายวิจัยของสมาคมฯกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "ราคาบ้านที่ร่วงลงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้จำนวนบ้านที่ถูกยึดและอัตราการผิดนัดชำระหนี้พุ่งสูงขึ้น เราคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะสูงขึ้นอีก และคาดว่าราคาบ้านจะลดลงอีกในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า
สมาคมฯระบุว่า อัตราการผิดนัดชำระหนี้และจำนวนบ้านที่ถูกยึดในรัฐแคลิฟอร์เนีย ฟลอริด้า เนวาด้า และอริโซนา คิดเป็นสัดส่วน 89% ของตัวเลขโดยรวม เนื่องจากราคาบ้านในรัฐเหล่านี้ร่วงลงอย่างนัก อีกทั้งมีบ้านที่ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างมากเกินไป
ทั้งนี้ วิกฤตการณ์ในตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐกำลังฉุดรั้งเศรษฐกิจสหรัฐให้ทรุดตัวลง หลังจากตลาดที่อยู่อาศัยเฟื่องฟูจนถึงขีดสุดเมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งวิกฤตการณ์ดังกล่าวทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลงหลายครั้ง จนปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยของเฟดยืนอยู่ที่ระดับ 2.00% อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงทำให้เฟดเริ่มวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อ โดยนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดได้ส่งสัญญาณครั้งหลังสุดว่า เฟดจะไม่ลดดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนนี้ สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--