ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ของสหรัฐกำลังพิจารณาหามาตรการใหม่ๆเพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาในขณะนี้ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนัก หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยอัตราว่างงานประจำเดือนพ.ค.ที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี ขณะที่ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นร้อนแรงทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
"เราเริ่มเห็นแล้วว่ามาตรการลดหย่อนภาษีมูลค่ารวม 1.68 แสนล้านดอลลาร์ ภายใต้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสเมื่อเดือนก.พ.ซึ่งได้เริ่มมีการส่งเช็คคืนภาษีให้กับประชาชนไปเมื่อเดือนที่ผ่านมาช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคอย่างได้ผล" บุชกล่าว
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่า ผู้บริโภคจะยังคงมีความหวั่นวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากสถานการณ์ในตลาดแรงงานที่ซบเซาอาจให้ผู้บริโภคไม่อยากซื้อสินค้าต่างๆมากนัก ซึ่งภาวะเช่นนี้ทำให้หลายฝ่ายมองว่า เศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2544 และได้กระตุ้นให้เกิดการตั้งคำถามขึ้นว่า รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่สองออกมาอีกหรือไม่
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับแรกที่บุชประกาศใช้ไปแล้วคือ การส่งเช็คคืนเงินภาษีให้กับประชาชนและเงินลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ โดยทำเนียบขาวยืนยันว่า ทางการจำเป็นต้องรอดูผลกระทบของมาตรการที่ใช้อยู่ในขณะนี้อย่างเต็มรูปแบบก่อนที่จะหารือถึงการกำหนดมาตรการขั้นต่อไป
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล โทร.0-2253-5050 อีเมล์: orasa@infoquest.co.th--