ผลสำรวจความคิดเห็นของตัวแทนจากภาคอุตสาหกรรมการผลิต ธนาคาร บริษัทที่ปรึกษาและธุรกิจบริการ 27 รายระบุว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐจะชะลอตัวในปี 2551 และจะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในปี 2552
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกได้จัดทำผลสำรวจความคิดเห็นในที่ประชุมสัมนาแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ในเมืองดีทรอยซ์ ซึ่งระบุว่า ตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐที่พุ่งขึ้น 2.5% ในปีก่อนหน้านี้ มีแนวโน้มขยายตัวขึ้นเพียง 1.2% ในปีนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากยอดการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม การขยายตัวด้านการลงทุนในตลาดที่อยู่อาศัยอาจช่วยให้ GDP กระเตื้องขึ้นแตะที่ 2.9% ในปี 2552
นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมสัมนาคาดว่าผลผลิตอุตสาหกรรมจะขยายตัวที่ระดับ 0.7% ในปี 2551 และจะฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 3.0% ในปี 2552 ขณะที่ยอดส่งออกสุทธิจะยังคงช่วยกระตุ้นตัวเลข GDP ทั้งในปีนี้และปีหน้า
สำหรับอัตราเงินเฟ้อซึ่งวัดได้จากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 3.9% ในปีนี้ ซึ่งเกือบเท่ากับระดับ 4.0% ในปีก่อนหน้านี้และคาดว่า CPI ในปี 2552 จะอ่อนตัวลงมาที่ 2.8%
ด้านอัตราว่างงานซึ่งมีสัดส่วนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4.8% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2550 อาจวิ่งขึ้นไปแตะระดับ 5.4% ในปี 2551 และจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 5.3% ในปี 2552 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยจะลดลงในปีนี้แต่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในปีหน้า
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันโดยเฉลี่ยอาจอยู่ต่ำกว่าระดับ 107 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายในสิ้นปีนี้ แต่จะปรับตัวลดลงในปี 2552 ส่วนเงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นในปี 2552 หลังจากที่อ่อนค่าลงในปีนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--