ดอลล์แข็งค่าเล็กน้อยที่ตลาดออสซี่เช้านี้ หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดบ.ปลายปี

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้านี้ (11 มิ.ย.) โดยเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อคืนนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ย้ำจุดยืนถึงความจำเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในปลายปีนี้เพื่อสกัดกั้นภาวะเงินเฟ้อ
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 08.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลารแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยที่ 107.45 เยนต่อดอลลาร์จากระดับ 107.42 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่เงินยูโรเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.5463 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.5465 ดอลลาร์ต่อยูโร
          เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวว่า ดูเหมือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะก้าวผ่านจุดที่เรียกว่าทรุดตัวลงไปแล้ว ขณะที่ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อกลับทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นจากภาวะราคาน้ำมันและอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ แถลงการณ์ของเบอร์นันเก้ส่งสัญญาณว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในปลายปีนี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยกระตุ้นให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
          นอกจากนี้ คำกล่าวของนายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ผู้ว่าการเฟดสาขาดัลลัสยังได้กระตุ้นเงินดอลลาร์ ท่ามกลางความวิตกกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐและการที่เฟดกระหน่ำหั่นดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา    
           ฟิชเชอร์กล่าวว่า เฟดจะไม่ทนต่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออีกต่อไป และยอมรับได้ที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงหากมีการควบคุมราคาสินค้า
          จอห์น นูนาน นักวิเคราะห์จากธอมสัน ไอเอฟอาร์ มาร์เก็ตส์กล่าวว่า "ตลาดเริ่มที่จะยึดเอาการที่ธนาคารกลางหลายแห่งมุ่งเป้าควบคุมเงินเฟ้อและราคาสินค้าโภคภัณฑ์และจะใช้นโยบายควบคุมความเสี่ยงที่ฉุดรั้งให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงมาเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาด"
          นูนานกล่าวว่า ปัจจัยที่ขับเคลื่อนตลาดได้เปลี่ยนไปแล้ว และไม่ได้มีเพียงธนาคารกลางยุโรปเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่มุ่งควบคุมภาวะเงินเฟ้อ         
          เขากล่าวว่า หากธนาคารกลางทั่วโลกยังคงเดินหน้าควบคุมภาวะเงินเฟ้อและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็จะยิ่งกดดันให้สกุลเงินที่อิงกับราคาสินค้าเหล่านี้เช่น เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ถูกแรงเทขายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง