นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม มั่นใจว่า ปัญหาเศรษฐกิจในเวียดนามจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย เนื่องจากไทยมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง รวมทั้งมีระบบสาธารณูปโภคและระบบการค้าที่มั่นคง ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันยังขยายตัวได้ดี
ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทยที่นักลงทุนต่างชาติจะหันมาลงทุนประเทศไทยมากขึ้น ดังนั้นรัฐบาลจะเร่งสร้างความเชื่อมั่นเพื่อดึงดูงนักลงทุนให้เข้ามาในประเทศไทย
นายสุวิทย์ ยังกล่าวด้วยว่า จากการหารือกับประธานหอการค้าเบลเยี่ยมพบว่านักลงทุนเบลเยียมยังสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเหล็ก ทั้งผู้ประกอบการไม่มีความกังวลต่อสถานการณ์ภายในประเทศไทย ทั้งในเรื่องปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจ เพราะนักลงทุนต่างเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและแยกออกจากปัญหาทางเศรษฐกิจชัดเจน
อย่างไรก็ดี นักลงทุนเบลเยี่ยมต้องการให้ไทยเปิดตลาดการค้าการลงทุนให้กว้างมากขึ้น ตามข้อตกลงเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน ซึ่งไทยรับปากว่าจะดำเนินการตามกรอบการค้าการลงทุนที่กำหนดไว้แล้ว แต่ทั้งนี้นักลงทุนมีความกังวลต่อกฎหมายสิทธิบัตรยา เพราะเบลเยี่ยมเป็นประเทศที่ผลิตยาจำนวนมาก รวมถึงกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงจะทำให้เกิดความไม่ชัดเจนและเสียบรรยากาศในการลงทุน
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เชื่อว่า ปัญหาวิกฤติทางการเงินของเวียดนามจะไม่เกิดผลกระทบรุนแรงและขยายวงกว้างถึงประเทศอื่น เพราะเชื่อว่าเวียดนามสามารถแก้ไขปัญหาได้ สำหรับการลดค่าเงินดองจะยิ่งทำให้นักลงทุนต่างชาติที่เข้าไปลงทุนผลิตสินค้าในเวียดนามเพื่อส่งออกต่างประเทศจะได้รับประโยชน์ เพราะต้นทุนการผลิตสินค้าถูกลง
เพียงแต่ระหว่างนี้นักลงทุนก็อาจจะชะลอการตัดสินใจลงทุนในเวียดนาม เพื่อรอดูมาตรการการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลเวียดนามให้มีความชัดเจนมากขึ้นก่อน
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--