นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า การส่งออกของไทยในระยะสั้นนี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่เวียดนามลดค่าเงินดอง เพราะแม้ว่าเวียดนามจะเป็นผู้ส่งออกสินค้าเช่นเดียวกับไทย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ราคาสินค้าของเวียดนามถูกกว่า เพราะต้นทุนการผลิตสินค้าและต้นทุนทางการบริหารเพิ่มขึ้น เช่น ราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย และภาวะเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ตาม กรมส่งเสริมการส่งออกจะจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะหากมีผลกระทบใดๆ เกิดขึ้นก็จะมีความชัดเจนในอีก 1-2 เดือนจากนี้
นายราเชนทร์ ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้กรมส่งเสริมการส่งออกได้ปรับยุทธศาสตร์การส่งเสริมการส่งออกในรูปแบบใหม่ โดยกำหนดสินค้าเป้าหมายในการสนับสนุนไว้ 5 กลุ่มสินค้า คือ กลุ่มอาหารและสุขภาพ, กลุ่มแฟชั่น, กลุ่มไลฟ์สไตล์, กลุ่มอุตสาหกรรมหนัก และกลุ่มธุรกิจบริการ คิดเป็น 75% ของมูลค่าการส่งออกรวม โดยในแต่ละกลุ่มจะกำหนดยุทธศาสตร์อย่างชัดเจน ซึ่งจะทำให้การผลักดันการส่งออกมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ กลยุทธ์โดยรวมจะปรับรูปแบบการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าไทย โดยยึดคอนเซ็ปต์ "Boom Thailand"ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์นานาชาติ, โฆษณาในสนามฟุตบอล, สนามกีฬานานาชาติ รวมถึงสนามบินนานาชาติ ขณะเดียวกันจะสนับสนุนการสร้างแบรนด์เฉพาะสินค้า โดยเบื้องต้นจะเน้นสินค้าเครื่องนุ่งห่ม, เครื่องหนัง, อัญมณี, เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งและเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร, สมุนไพร และสปา
นอกจากนี้ จะกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวในการออกแบบสินค้า โดยจะจัดแข่งขันเรียลลิตี้โชว์ เปิดรับผู้แข่งขันออกแบบในสินค้าเป้าหมายและถ่ายทอดสด รวมถึงเปิดให้ผู้ชมทางบ้านโหวต ซึ่งผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัลและโล่เกียรติยศ พร้อมเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันออกแบบในต่างประเทศ
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--