ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วง ขณะนลท.ชั่งน้ำหนักเฟดชี้ชะตาดอกเบี้ย

ข่าวต่างประเทศ Thursday June 12, 2008 07:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินอื่นๆ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจในหลายภูมิภาคของสหรัฐซบเซาลงเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทำให้นักลงทุนลดน้ำหนักการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่กลับเชื่อว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวช่วยหนุนสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับ 106.91 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 107.43 เยน/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.0317 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0416 ฟรังค์/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5554 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.5462 ดอลลาร์/ยูโร เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.9621 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9542 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 0.7552 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7518 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.9464 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9452 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
รายงาน Beige Book ของเฟดระบุว่า เศรษฐกิจในหลายภูมิภาคของสหรัฐซบเซาลงเป็นใหญ่ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันและอาหารที่พุ่งสูงขึ้นผลให้เศรษฐกิจในหลายภูมิภาคชะลอตัวลงอย่างมากในช่วงเดือนเม.ย.และพ.ค.
อาร์ชาฟ ไลดี นักยุทธศาสตร์การลงทุนด้านปริวรรตเงินตราจากบริษัทซีเอ็มซี มาร์เก็ต ในกรุงนิวยอร์ก กล่าวว่า "รายงาน Beige Book ครั้งล่าสุดและอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงทำให้นักลงทุนมองว่าเฟดอาจลังเลที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่อีซีบีส่งสัญญาณหลายครั้งว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ"
นายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานอีซีบีส่งสัญญาณว่า อีซีบีอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 3 ก.ค.นี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในยุโรปพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.6% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี ขณะทีอีซีบีตั้งเป้าไว้ว่าจะรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ต่ำกว่าระดับ 2.00%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราว่างงานของสหรัฐประจำเดือนพ.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 5.5% จากเดือนเม.ย.ที่ 5.0% ซึ่งเป็นสถิติที่สูงสุดในรอบ 22 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 5.1%
นักลงทุนเข้าซื้อเงินเยนอย่างคับคั่งหลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกขยายตัวขึ้นในอัตรา 4.0% ต่อปี สูงกว่าที่ได้ประเมินในเบื้องต้นว่าขยายตัวขึ้น 3.3% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.9%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ