ผลวิจัยของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐในเดือนพ.ค. 2551 จะขยายตัวขึ้น เนื่องจากชาวอเมริกันเริ่มใช้จ่ายเงินที่ได้จากเช็คคืนเงินภาษี ในขณะที่ราคาเชื้อเพลิงที่สูงเป็นประวัติการณ์ทำให้สถานีบริการน้ำมันมีรายได้มากขึ้น
โดยคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากที่ร่วงลง 0.2% ในเดือนเม.ย. และคาดว่าต้นทุนสินค้านำเข้าจะทะยานขึ้น 2.5% เนื่องจากตัวเลขค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ คาดว่าวอล-มาร์ทจะเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทค้าปลีกที่ได้รับอานิสงส์จากการใช้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายเงินมูลค่าประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ตามที่รัฐบาลได้จัดส่งเช็คไปให้ประชาชนเมื่อเดือนพ.ค. ในขณะที่ราคาสินค้าที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคหันไปหาเชนร้านค้าที่ขายสินค้าลดราคา ซึ่งการกระตุ้นครั้งนี้อาจจะส่งผลในระยะสั้นๆเท่านั้น เนื่องจากสินเชื่อที่ยังคงตึงตัว มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่ร่วงลง และตลาดแรงงานที่อ่อนตัวส่งสัญญาณให้เห็นว่าชาวอเมริกันจะกลับมาประหยัดการใช้จ่ายอีกครั้งเมื่อใช้เงินก้อนพิเศษที่รัฐบาลแจกไปแล้ว
ไรอัน สวีท นักเศรษฐศาสตร์ของ Moody's Economy.com กล่าวว่า เงินคืนภาษีน่าจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่เช็คดังกล่าวอาจจะไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเหมือนกับที่ผู้บริหารระดับนโยบายได้ตั้งความหวังไว้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะรายงานตัวเลขขายปลีกสหรัฐในคืนนี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า ยอดขายปลีกจะอยู่ในช่วงตั้งแต่ลดลง 0.3% ไปจนถึงขยายตัวขึ้น 1.2% ซึ่งไม่นับรวมยอดขายยานยนต์แล้ว ยอดขายอาจจะสูงขึ้น 0.7% นับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--