ประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย่ ของฟิลิปปินส์ได้กล่าวปราศรัยในโอกาสครบรอบอิสรภาพ 110 ปีของฟิลิปปินส์ว่า ฟิลิปปินส์มีสำรองข้าวที่เพียงพอ และลั่นจะดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการพึ่งพาตนเองด้านอาหารในอนาคต นอกจากนี้ รัฐบาลยังจะพัฒนาแหล่งพลังงานทางเลือกเพื่อลดผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวสูงขึ้น
นางอาร์โรโย่กล่าวว่า การที่ฟิลิปปินส์นำเข้าข้าวนั้นก็เพื่อใช้สำหรับสำรองข้าวฉุกเฉินในประเทศเท่านั้น อย่างไรก็ดี ผู้นำฟิลิปปินส์ไม่ได้ระบุถึงระยะเวลาที่ฟิลิปปินส์จะสามารถผลิตข้าวได้เพียงพอกับความต้องการโดยไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้า ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านการเกษตรเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ฟิลิปปินส์จะสามารถผลิตข้าวได้เองถึง 98% ภายในปี 2553 ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สิ้นสุดการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของนางอาร์โรโย่
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ฟิลิปปินส์สามารถผลิตข้าวได้ประมาณ 85-90% ของความต้องการข้าวในประเทศ และยังเป็นประเทศผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดในโลก
ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ยังได้กล่าวแนะนำให้ประชาชนร่วมมือกันแก้ปัญหาราคาอาหารและน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อประเทศอย่างหนัก และย้ำว่ารัฐบาลได้ดำเนินการเพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันแพงแล้ว ด้วยการจัดเก็บภาษีน้ำมันในระดับต่ำและให้เงินอุดหนุนด้านค่าไฟแก่คนยากจน
ในอนาคต ฟิลิปปินส์จะเพิ่มการใช้งานจากพลังงานประเภทต่างๆมากขึ้น อาทิ พลังงานแก็สธรรมชาติ พลังงานความร้อน แสงอาทิตย์ และพลังลม โดยประเทศได้ขยายการผลิตน้ำมันภายในประเทศ เพื่อให้สามารถตอบสนองการใช้งานภายในประเทศที่ 10% ได้ในเร็วๆนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--