เกล็น สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยว่า การตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงสุดในรอบ 12 ปีที่ 7.25% เป็นเครื่องมือสำคัญในการควบคุมเงินเฟ้อที่ถือว่าเป็นภัยคุกคามเศรษฐกิจ มากกว่าวิกฤติสินเชื่อทั่วโลก
การแสดงความคิดเห็นของผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียออกมาในทิศทางเดียวกับนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่มีขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เขาจะเดินหน้าสกัดกั้นภาวะเงินเฟ้ออย่างเต็มสูบ ขณะที่นายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรปก็เน้นย้ำว่าธนาคารอาจขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนหน้า"
ทั้งนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียได้ตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ที่ระดับเดิมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่ขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 7 เดือน
"นโยบายการเงินของออสเตรเลียอยู่ที่ความจำเป็นในการควบคุมอุปสงค์ภายในประเทศ เนื่องจากเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นจะสร้างปัญหาต่างๆที่อาจปะทุขึ้นจากผลกระทบที่ขยายวงกว้างลุกลามไปยังภาคธุรกิจการค้า" สตีเวนส์กล่าว
"นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการกำหนดนโยบายการเงินจึงมีความสำคัญ และเหตุใดธนาคารกลางจึงต้องขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่เฟดปรับลดดอกเบี้ย"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 13.27 น. ตามเวลาออสเตรเลีย ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ 94.08 ต่อเซนต์สหรัฐ จากระดับ 93.83 ต่อเซนต์สหรัฐก่อนที่ผู้ว่าจะแสดงความคิดเห็น ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 2 ปีไต่ระดับขึ้น 0.13% แตะที่ 7.14% จากเมื่อวานนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--