ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแกว่งตัวผันผวนเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญๆที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้าวันนี้(16 มิ.ย.) โดยเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวอย่างไร้ทิศทาง หลังจากที่แข็งค่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
จากข้อถกเถียงที่ว่าตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐนั้นสูงพอที่จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปลี่ยนท่าทีมาใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินหรือไม่ หลังจากที่ทางการสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนพ.ค.เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีส่วนช่วยกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายในตลาด
โดยดัชนี CPI เดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.6% ซึ่งเป็นผลจากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงานขยับขึ้น 0.2% และเงินเฟ้อโดยรวมพุ่งสูงสุดในรอบ 6 เดือน
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 07.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะที่ 108.30 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 108.15 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่เงินยูโรเคลื่อนไหวแตะที่ 1.5379 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.5377 ดอลลาร์ต่อยูโร
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2548 เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอื่นๆจากกระแสความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและจากการที่เจ้าหน้าที่เฟดหารือถึงการใช้นโยบายกระตุ้นค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งทำให้ตลาดมีกระแสคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในปลายปีนี้
นายจอห์น นูนาน นักวิเคราะห์จากธอมสัน ไอเอฟอาร์ มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า เทรดเดอร์ยังคงแปลกใจที่การประชุมกลุ่มประเทศจี-8 ไม่ได้หยิบยกประเด็นเรื่องตลาดปริวรรตเงินตราเข้าหารือในที่ประชุมอย่างเป็นทางการ
นายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมจี-8 ว่า "ประเด็นเรื่องเงินดอลลาร์แข็งค่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งเงินดอลลาร์สหรัฐมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในระยะยาว"
นายนูนานกล่าวว่า หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาพุ่งขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี คือ กระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดพร้อมแล้วที่จะใช้มาตรการสร้างเสถียรภาพให้กับเงินดอลลาร์สหรัฐ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--