นักวิเคราะห์คาด FED เบนเข็มคุมเงินเฟ้อ จะหนุนดอลลาร์แข็งเทียบยูโร

          บรรดานักวิเคราะห์สกุลเงินจากบริษัทต่างๆคาดการณ์ว่า เงินดอลาร์สหรัฐจะเริ่มแข็งค่าขึ้นจากการเปลี่ยนท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะใช้นโยบายปรับขึ้นดอกเบี้ยชัดเจนกว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้มีความเป็นไปได้ว่าจะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
          นักวิเคราะห์จาก 39 สำนักที่ทำการสำรวจโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า เงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น 2.5% ไปอยู่ที่ระดับ 1.50 ต่อยูโรในปลายปีนี้ และคาดว่า ECB จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ย. และหลังจากนั้นจะปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ในปลายปี ขณะที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวแสดงความเป็นกังวลต่อค่าเงินดอลลาร์ซึ่งทำให้เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ภายในช่วงสิ้นสุดไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 
          "เราได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงท่าทีของเฟดที่เน้นย้ำถึงเรื่องค่าเงินอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเฟดได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนต่อการพุ่งเป้าที่เงินเฟ้อและความจำเป็นในการควบคุมเงินเฟ้อ" เอียน สแตนนาร์ด นักวิเคราะห์จากบีเอ็นพี พาริบาส์ เอสเอกล่าว           
          กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. และปรับขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งรายงานดังกล่าวตอกย้ำถึงกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 2.75% จากเดิมที่ 2.0% ในอีก 15 เดือนข้างหน้า 
          ทั้งนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งสูงสุดในรอบ 3 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินเยนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 3.1% เมื่อเทียบกับเงินเยนแตะที่ 108.19 เยนต่อดอลลาร์ และแข็งค่าขึ้นเทียบสกุลเงินยูโร 2.5% ที่ระดับ 1.5380 ต่อยูโร