นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เชื่อว่า อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 51 จะเร่งตัวขึ้นไม่ถึง 2 หลัก(digit) ส่วนอัตราเงินเฟ้อ ณ ขณะใดขณะหนึ่งในช่วงครึ่งปีหลังจะเร่งตัวขึ้นถึง 2 หลัก ก็มีโอกาสเป็นไปได้แต่ไม่มากนัก ขึ้นกับปัจจัยสำคัญ คือ ราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากจะคาดการณ์
"โอกาส(เงินเฟ้อเฉลี่ยในแต่ละเดือน)มีถึง 2 หลักมี แต่คิดว่าไม่เยอะ...เงินเฟ้อที่ปรับขึ้นมาจากราคาน้ำมันและยากจะคาดการณ์ว่าน้ำมันจะขึ้นไปเท่าไหร่ ดังนั้นตรงนี้เป็นปัจจัยหลัก ถ้าน้ำมันขึ้นไปเยอะ ๆ ก็มีโอกาส"นางธาริษา กล่าว
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)จะพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายด้วยการชั่งน้ำหนักความสำคัญในการดูแลอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อให้มีความสมดุลกัน โดยขณะนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งประชุม กนง.ก่อนถึงกำหนดในเดือน ก.ค.2551 ซึ่ง ธปท.เองก็ไม่ต้องการดำเนินการใด ๆ ให้เกิดความตื่นตระหนกต่อตลาดด้วย
นางธาริษา กล่าวว่า งานหลักของ กนง.คือจะต้องดูแลเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบที่จะรับได้ โดยเชื่อว่าหากถึงจุดหนึ่งแล้วเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นไปจนส่งผลให้เกิดความเสี่ยงเกินกว่าในระดับที่เหมาะสมต่อระบบเศรษฐกิจ ก็เชื่อว่า กนง.จะใช้นโยบายการเงินเข้ามาดูแล แต่ทั้งนี้คงบอกไม่ได้ว่าที่ประชุม กนง.ครั้งต่อไปจะตัดสินใจอย่างไร แต่ถ้าเห็นว่าเงินเฟ้อมีความเสี่ยงสูงก็อาจจะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย
ทั้งนี้ หาก กนง.พิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยขณะนี้ ก็ยังไม่น่าจะส่งผลต่อต้นทุนผู้ประกอบการมากนัก เพราะจากที่ ธปท.พิจารณาข้อมูลของผู้ประกอบการไทยและประเทศอื่น ๆ ต้นทุนที่เป็นภาระกับผู้ประกอบการมากที่สุดคือ ต้นทุนค่าขนส่ง โดยประเทศอื่น ๆ ต้นทุนค่าขนส่งอยู่ที่ 10% ของ GDP ขณะที่ไทยอยู่ที่ 24% ของ GDP ซึ่งถือว่าเป็นต้นทุนที่มีสัดส่วนสูงมาก ขณะที่ต้นทุนทางการเงินของไทยเป็นส่วนน้อยเท่านั้น นอกจากนั้น อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยถือว่าต่ำสุดในภูมิภาค และถ้าคิดอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงก็ยังติดลบ
นางธาริษา กล่าวว่า การดูแลเงินเฟ้อจะต้องทำให้เกิดความสมดุลระหว่างเสถียรภาพเศรษฐกิจและเสถียรภาพด้านราคา เพราะถ้าดูแต่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเดียวจะทำให้ประเทศไปไม่ตลอดรอดฝั่ง เพราะมีตัวอย่างจากเวียดนามให้เห็นแล้ว จากการมุ่งไปที่อัตราขยายตัวเศรษฐกิจด้านเดียว ทำให้เงินเฟ้อพุ่งไปถึง 25% ดังนั้น จะต้องยึดถือความเห็นกลาง ซึ่งธปท.ก็ได้ดำเนินการอยู่ แต่การที่ธปท.ไม่ได้ออกมาดำเนินการใด ๆ ในระยะนี้ เพราะข้อมูลยังมีความผันผวนมาก ธปท.จึงจับตาดูแลอยู่ เพื่อรอข้อมูลที่แท้จริง
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--